เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2567 รัชดา ธนาดิเรก อดีตสส.กทม. และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวระหว่างการพบปะเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนที่สวนทุเรียนในจ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมาว่าตั้งเป้าจะต้องขายทุเรียนให้ได้ปีละ 1 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
รัชดา ระบุว่า แม้การบริหารอย่างมีเป้าหมายของนายกรัฐมนตรีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เป้าหมายขายทุเรียนอันอลังการที่หวังสร้างคะแนนนิยมในกลุ่มชาวสวนทุเรียนนั้น ตนฟังแล้วรู้สึกถึงความเป็นไปไม่ได้เสียมากกว่า นายกฯตั้งเป้าภายใน 10 ปี ขายทุเรียนให้ได้ 1 ล้านล้านบาท จากเดิมตอนนี้อยู่ที่ 120,000 ล้านบาท แปลว่าจะเพิ่มให้ได้อีกเกือบ 10 เท่า และการที่นายกฯบอกว่าจะเน้นขายของพรีเมี่ยมนั้น คำถามแรกคือแล้วราคาทุเรียนต้องสูงเป็นเท่าไรจึงจะทำยอดขายให้ได้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งทุเรียนไม่ใช่ทอง เกษตรกรไทยสามารถตั้งราคาขายแพงเท่าไหร่ก็ได้หรือ
รัชดา ระบุอีกว่า ขณะที่ประเทศเวียดนามมาแรงเหลือเกิน ครองส่วนแบ่งตลาดในประเทศจีนเพิ่มขึ้นอย่างมาก อยู่ที่ 31.8 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของไทยอยู่ที่ 68 เปอร์เซ็นต์ คำถามต่อมาคือประเทศไทยจะเอาผลผลิตจากที่ไหน และพื้นที่ปลูกต้องเพิ่มกี่เท่า เมื่อความเป็นจริง ในปี 2566 มีเนื้อที่เพาะปลูก 1.05 ล้านไร่ ผลผลิต 1.54 ล้านตัน แล้วจะหาที่ดินอีก 10 เท่าซึ่งก็คือ 10 ล้านไร่ มาจากไหน และหากจะให้ลดปลูกพืชชนิดอื่น แล้วมาทุ่มปลูกทุเรียน จะทำให้มีผลผลิตล้นตลาด และราคาตกแน่นอน อีกทั้งกว่าทุเรียนจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 4-5 ปี
“ด้วยประการทั้งปวงที่หยิบยกมา ทำให้เห็นว่าเป้าหมายภายใน 10 ปี ขายทุเรียนให้ได้ 1 ล้านล้านบาท จึงเป็นไปไม่ได้เลย (แล้วจะพูดทำไมหละหนอ) เช่นเดียวกับนายกฯค่ะ อยากให้เราขายทุเรียนได้เยอะๆ แต่เป้าหมายการบริหารงานต้องไม่เพ้อเจ้อ จะได้ไม่ชี้นำผิดทาง” รัชดา ระบุ