ในเวทีการประชุม World Economic Forum ประจำปี 2562 ที่จัดขึ้นที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีชาวอเมริกันกล่าวเตือนว่า ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของหุ่นยนต์เป็นความสามารถที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องและควบคุมความเป็นเผด็จการในประเทศ ซึ่งสิ่งดังกล่าวเป็นอันตรายในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ นายโซรอส ยังกล่าวว่า แม้ว่าจีนไม่ใช่ประเทศเผด็จการประเทศเดียวในโลกนี้ แต่จีนเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุด แข็งแกร่งที่สุดและมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าที่สุด ซึ่งรัฐบาลจีนสร้างเทคโนโลยีดังกล่าวเพื่อตรวจดูพฤติกรรมของประชาชนในประเทศ ทั้งนี้ นายโซรอสยังกล่าวถึงประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำจีนว่า "เป็นบุคคลที่อันตรายที่สุดต่อโลกเสรี" รวมไปถึงแนะนำว่าสหรัฐฯ ควรหันมาสนใจจีนให้มากกว่านี้
"แทนที่จะขับเคี่ยวสงครามการค้ากับทั้งโลก ในทางปฏิบัติแล้วสหรัฐฯ ควรหันมาให้ความสำคัญกับจีน"
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้สหรัฐฯ เดินหน้ากดดันบริษัทเทคโนโลยีจากจีนอย่างหัวเว่ย และ ZTE ให้มากขึ้น หลังจากที่เจ้าหน้าที่บางคนของสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้งสองบริษัทเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
"แทนที่จะปล่อยให้ ZTE และหัวเว่ยเงียบหายไป สหรัฐฯ จำเป็นต้องปราบปรามทั้งหัวเว่ยและ ZTE...และหากปล่อยให้ทั้ง 2 บริษัทนี้เข้ามาครองตลาด 5G จะก่อให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยทั่วโลก"
นอกจากนี้ นายโซรอสยังระบุว่า การใช้เทคโนโลยีในการควบคุมพลเมืองของจีนนั้นป็นการกระทำที่ละเมิดจริยธรรมที่ร้ายแรงและเป็นภัยต่อสังคมเสรี
มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน วัย 88 ปี ที่เป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้แก่โครงการสิทธิมุนษยชนทั่วโลก รวมไปถึงการส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยในประเทศต่างๆ ทั้งนี้การกล่าวสุนทรพจน์ของเขาที่ดาวอสเมื่อปี 2561 เขาวิจารณ์เฟชบุ๊กว่า เป็นตัวบ่อนทำลายประชาธิปไตยเช่นกัน