ชัย​ วัชรงค์​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ กล่าวกรณีที่ประชุมไตรภาคี​ยืนมติเดิมอัตราการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ว่า​ รัฐบาลไม่มีอำนาจในการพิจารณาเพียงแต่รับทราบมติดังกล่าว​ เนื่องจาก ครม.ไม่มีสิทธิในการทักท้วง​ แต่ในขณะเดียวกันรัฐบาลมีสิทธิที่จะรับผิดชอบความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งจากการวิจัยตัวเลขอัตราการปรับขึ้นของค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่​ 440 บาทต่อคน​ แต่การปรับขึ้นค่าแรงในครั้งนี้เพียงแค่ 2-16 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

ชัย​ ยังระบุอีกว่า รัฐบาลการไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงให้คณะกรรมการไตรภาคี ทบทวนไม่ได้ แต่รัฐบาลเองก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ได้แสดงความคิดเห็นและใช้ดุลยพินิจ ให้ไตรภาคีมาหารือกันอีกครั้ง แต่ถ้าจะพิจารณาก็เป็นสิทธิตามกฎหมาย แต่ก็ไม่มีข้อกำหนดว่าการพิจารณาปรับขึ้นอัตราค่าแรงสามารถพิจารณาได้เพียง 1​ ครั้งใน รอบปี​ ในรอบนี้ นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน​ ระบุว่าสูตรในการคำนวณค่าแรง จะต้องใช้ตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขสถิติในภาวะปกติ 5 ปีย้อนหลังในการคำนวณ