'มัลดีฟส์' คือหนึ่งในไม่กี่ประเทศของโลกที่กล้าประกาศเปิดประเทศอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงน่ากังวลอย่างมาก และทั่วโลกกำลังลองผิดลองถูกกับวิธีเผชิญหน้ากับการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ ที่มียอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมากกว่า 140 ล้านคน และเสียชีวิตไปมากกว่า 3 ล้านราย

แน่นอนว่า 'วัคซีน' นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำคัญทาง 'สาธารณสุขแล้ว' ยังเป็นใบเบิกทางชั้นเยี่ยมที่จะทำให้นานาประเทศ สามารถกลับเข้าสู่ 'ระบบเศรษฐกิจโลก' ได้อีกครั้ง และแม้ว่าไทยจะยังแทบมองไม่เห็นอนาคตของการกลับมาในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตอนนี้เกาะสวรรค์อย่าง 'มัลดีฟส์' พร้อมแล้วที่จะขึ้นแท่นเป็น "จุดหมายปลายทางแห่งวัคซีนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก" ในโปรแกรมที่เรียกว่า Vaxication (Vaccine + Vacation) เป็นหนึ่งอาวุธเพื่อกระตุ้น Vaccine Tourism หรือ 'การท่องเที่ยวพร้อมข้อเสนอการฉีดวัคซีน' นั่นเอง

อับดุลลาห์ เมาซูม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวมัลดีฟส์ แถลงแผนการสำคัญของการดึงนักท่องเที่ยวกลับเข้าประเทศด้วยการเปิดแคมเปญ "ฉีดวัคซีนให้นักท่องเที่ยว" โดยมีแผนการที่เรียกว่า 3V อันประกอบไปด้วย Visit (มาเยือน) Vaccinate (ฉีดวัคซีน) และ Vacation (พักร้อน) 

โดยผู้มาเยือนจะได้รับการฉีดวัคซีนจนครบทั้ง 2 โดส นั่นหมายความว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลาในมัลดีฟส์เป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดึงดูดผู้ที่สนใจให้เดินทางมาและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไปในตัว โดยเมาซูมประกาศ ปรับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2564 จากเดิม 1 ล้านคน เป็น 1.5 ล้านคน ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

'Vaxication Program' ไม่ใช่ตอนนี้ แต่จะกำลังจะเกิดขึ้น

ทางการมัลดีฟส์ชี้ว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 มัลดีฟส์มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเฉลี่ยมากถึงปีละ 1.7 ล้านคน ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ (Michigan State University) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคิดเป็นมูลค่ามากราว 28% ของ GDP มัลดีฟส์ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ขณะที่ในปี 2563 มัลดีฟส์คาดการณ์ว่าจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ราว 500,000 คนเพราะผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจและโรคระบาด แต่ท้ายที่สุดปรากฎว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศมากถึง 555,494 คน ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้

โปรแกรม Vaxication นี้มีจุดประสงค์เพื่อมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยให้กับผู้คนจากทั่วโลกพร้อมกับความไม่สะดวกสบายที่น้อยที่สุด นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศเพื่อร่วมโครงการท่องเที่ยวพร้อมรับวัคซีนต้องรอเวลาอีกสักระยะหนึ่งจนกว่าประชากรทั้งประเทศของมัลดีฟส์จะได้รับวัคซีนจนครบทั้ง 2 โดส โดยประชากรในมัลดีฟส์มีอยู่เพียงไม่ถึง 550,000 คนเท่านั้น ขณะที่ราว 53% ของคนทั้งประเทศได้รับวัคซีนโดสแรกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งครอบคลุม 90% ของบุคคลากรด่านหน้าในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

ข้อดีที่โดดเด่นและน่าดึงดูดมากที่สุดก็คือ มัลดีฟส์มีพื้นที่เป็นหมู่เกาะที่กระจายตัวออกไป นักเดินทางที่มาเยือนจะกระจายตัวออกไปทั่วทั้งประเทศตามหมู่เกาะต่างๆ ทำให้การใช้มาตรการสร้างระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing มีประสิทธิภาพ และง่ายต่อการปฏิบัติ ซึ่ง รมว.การท่องเที่ยวมัลดีฟส์ชี้ว่า "เรากำลังผลักดันให้มัลดีฟส์เป็นจุดหมายปลายทางที่เป็นสวรรค์อันปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว"

วัคซีนที่จะนำมาให้ นทท.จะเพียงพอหรือไม่?

แน่นอนว่าจำนวนของวัคซีนที่จะมอบให้กับนักท่องเที่ยวคือคำถามสำคัญที่หลายฝ่ายยังคงสงสัยว่าจะเพียงพอหรือไม่ เพราะต้องฉีดประชากรมัลดีฟส์ให้ครบเสียก่อน อย่างไรก็ตาม จำนวนประชากรในประเทศมีเพียงไม่ถึง 550,000 คน ซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับการจัดหาและการดำเนินการฉีด ขณะที่ตอนนี้มัลดีฟส์ได้รับบริจาควัคซีนจากทั้งอินเดีย จีน รวมถึงโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก และกำลังรอรับวัคซีนเพิ่มเติมจากสิงคโปร์อีกด้วย ซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหาใดๆ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยว่านักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าวัคซีนเองหรือไม่ 

ปัจจุบันรีสอร์ทและเกสต์เฮาส์ในมัลดีฟส์มากกว่า 500 แห่งเปิดให้บริการแล้วในขณะนี้ หลังการประกาศปิดประเทศช่วงปลายเดือน มี.ค. 2563 และทางการประกาศเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่มีเงื่อนไขในเดือน ก.ค. 2563 ต่อมาในเดือน ก.ย. ในปีเดียวกัน นักท่องเที่ยวเพียงแค่ต้องแสดงผลการตรวจเชื้อที่เป็นลบเมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาการปิดประเทศอันสั้น อย่างไรก็ตาม กรุงมาเล เมืองหลวงของมัลดีฟส์ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

แม้จะมีการเปิดประเทศมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือนเต็ม จำนวนการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในมัลดีฟส์ยังอยู่ในระดับที่ต่ำ โดยรายงานผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดในวันที่ 15 เม.ย. จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 25,939 คน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเพียง 67 รายเท่านั้น

ขอบคุณภาพถ่ายมัลดีฟส์ : Phavitch Theeraphong