นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงการใช้เวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ว่า ฝ่ายค้านใช้เวลาไปแล้วทั้งสิ้น 28 ชั่วโมง 14 นาที และเหลือเวลาอภิปรายอีก 13 ชั่วโมง 45 นาที ขณะที่รวมเวลาที่ใช้ไปทั้งหมด 3 วันรวมเวลาตอนนี้ 41 ชั่วโมง 53 นาที
ที่ปรึกษาประธานสภา กล่าวถึงการอภิปรายในวันนี้ซึ่งมีระยะเวลาจากเริ่มประชุมไปจนถึง 24.00 น. วันนี้จำนวน 15 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านที่เหลืออยู่ หากการอภิปรายยังเป็นแบบเดิม คาดว่าไม่น่าจะแล้วเสร็จตามกรอบที่ตกลงกันไว้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าการลงมติไม่ไว้วางใจจะต้องเป็นคนละวันกับการอภิปราย
เมื่อถามถึงกรณีความเคลื่อนไหวของทางสภาหลังจากกลุ่มม็อบเฟสต์และกลุ่มนักเรียนเลวประกาศนัดหมายทางโซเชียลชุมนุมที่รัฐภา เวลา 17.00 น. เพื่อติดตามการอภิปรายการชี้แจงของ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี สุกิจ กล่าวว่า คนมาสภาเยอะ คงไม่มีมาตรการอะไรเป็นพิเศษ จากที่ผ่านมาถ้าม็อบมาจำนวนนี้และเจตนาที่เขามาก็คงไม่มีอะไรน่ากังวล สำหรับความพร้อมของสภาฯ นพ.สุกิจ กล่าวว่า ก็เหมือนกับทุกครั้ง และในวันนี้ทางตำรวจ สน.บางโพ ดูแลเรื่องนี้อยู่
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในวันนี้มีเวลา 15 ชั่วโมง แต่ฝ่ายค้านเหลือเวลา 13 ชั่วโมง 45 นาที ว่า ทางวิป 2 ฝ่ายยังไม่แจ้งมาถึงผลการหารือว่าจะขยายวันอภิปรายไปในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) และลงมติในวันที่ 21 ก.พ.หรือไม่ โดยจะต้องพิจารณาเวลาอภิปรายของฝ่ายค้านก่อน ว่าใช้ไปเท่าใด
ขณะที่บริเวณโดยรอบมีการนัดชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง 2 กลุ่ม นายชวน กล่าวย้ำว่าการรักษาควาทปชอดภัย ภายในรัฐสภาไม่มีปัญหา ซึ่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานตนเมื่อวานนี้แล้ว ส่วนภายนอกรัฐสภาเป็นหน้าที่ตำรวจดูแลพื้นที่ และไม่ห่วงการชุมนุมที่จะปิดทางเข้าออกสภา เพราะเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้การปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เดินหน้าต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณแยกเกียกกาย และโดยรอบสภาผู้แทนราษฎร ถ.สามเสน เขตดุสิต หลังจากที่กลุ่มคณะราษฎร 2563 นำโดย ภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ , และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง จะเข้ามาจัดกิจกรรม ต่อต้านรัฐบาลและสนับสนุนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในการออกเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรี เป็นรายบุคคล
ซึ่งทางเข้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถฉีดน้ำควบคุมฝูงชน จำนวน 3 คัน พร้อมรถเติมน้ำ 1 คัน ที่ได้รับการสนับสนุนจากตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี จอดอยู่บริเวณถนนทหารด้านข้างสภาฯ ฝั่งท่าน้ำเกียกกาย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยคอยดูแลความปลอดภัยอยู่โดยรอบ
ขณะที่ช่วงเย็นวานนี้ (18 ก.พ. 2564) พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจนครบาลมีการเตรียมความพร้อมดูแลความเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรในวันเสาร์ที่ 20 ก.พ.นี้ ไว้แล้ว รวมถึงเตรียมกำลังกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปชุมนุมที่รัฐสภาฯ โดยตำรวจมีการติดตามด้านการข่าวว่า จะมีการประกาศนัดชุมนุมจุดไหน อย่างไร
พล.ต.อ. สุวัฒน์ ยอมรับว่า เหตุการณ์ปะทะระหว่างตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องมีการทบทวนยุทธวิธีการปฏิบัติ ยอมรับกังวลหลังครั้งที่แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไม่ยอมเลิก และมีการปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายเข้มมากขึ้น ครั้งนี้ตำรวจก็นำบทเรียนที่ผ่านมา มาศึกษาและดูว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันจะทำอย่างไร แต่คงบอกรายละเอียดไม่ได้ แต่ในส่วนของตำรวจได้มีการกำชับให้มีการเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัว โดยดูจากของที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ที่ผ่านมา
พล.ต.อ. สุวัฒน์ยังกล่าวถึงการเตรียมกำลังจำนวนกว่า 69 กองร้อยว่า ไม่ใช่กำลังที่จะใช้ทีเดียว 69 กองร้อย แต่เตรียมไว้สับเปลี่ยนหมุนเวียน หากสถานการณ์ต่อเนื่องต้องมีกำลังพร้อมรับมือ และดูแลสถานที่สำคัญ โดยจะใช้กำลังตามความจำเป็น โดย ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา มีความห่วงใยความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และไม่อยากให้เกิดการปะทะกันเกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :