นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้รับการร้องเรียนจากบุคลากภายในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2562 ที่ผ่านมาอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้คณะผู้บริหารและพนักงานเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยจำนวน 23 คน เดินทางไปติดตามประเมินผลนักเรียนทุนที่มีความสามารถด้านกีฬาไม่กี่คน ณ ประเทศออสเตรเลียในระหว่างวันที่ 12-17 ก.ค.2562 ซึ่งพบว่าคณะที่เดินทางไปดังกล่าวมีโปรแกรมการดูงานจริงเพียงช่วงบ่ายวันที่ 16 ก.ค.เท่านั้นและไม่มีโปรแกรมการไปติดตามและประเมินผลการเรียนของนักเรียนทุนเลย นอกจากเป็นโปรแกรมการทัวร์เที่ยวเล่น กิน ช้อปปิ้ง ถ่ายรูปเซลฟี่มาอวดกัน และผู้ที่ไปร่วมดูงานก็ไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจแต่อย่างใด เช่น หัวหน้าสำนักงานรองอธิการบดี นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิเทศสัมพันธ์ เป็นต้น
นอกจากนั้น ก่อนหน้านี้มีการอนุมัติให้คณะผู้บริหารอีก 24 คนได้เดินทางไปดูงานด้านการศึกษาและกีฬากับประเทศในกลุ่มทวีปยุโรป อาทิ รัสเชีย นอร์เวย์ และเดนมาร์กในช่วงวันที่ 22-30 เม.ย.2562 โดยใช้งบประมาณจากภาษีของประชาชนไปเป็นจำนวนมาก โดยมีข้อพิรุธอย่างมากคือ มีการนำสามีของผู้บริหารสถาบัน เดินทางไปร่วมดูงานด้วย ทั้ง ๆ ที่มิได้เป็นกรรมการหรือมีมีตำแหน่งหรือส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสถาบันฯ แต่อย่างใด
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้น ถือได้ว่าเป็นการขัดต่อ พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 ม.6 ประกอบ ม.37 วรรคสอง ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่าการใช้จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติหน้าที่หรือการดําเนินงานต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่าและประหยัด โดยพิจารณาเป้าหมาย ประโยชน์ที่ได้รับ ผลสัมฤทธิ์ และประสิทธิภาพของหน่วยงานของรัฐ และ พรป.ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 2561 ม.95 วรรคสาม และม.98 รวมทั้งขัดต่อนโยบายของรัฐบาลที่เคยมีมติคณะรัฐมนตรีห้ามไว้เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 โดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนกล่าวโทษอธิการบดี ม.การกีฬาแห่งชาติ และคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัย พนักงานเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมคณะไปดูงานดังกล่าวต่อผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายพร้อมเรียกเงินรัฐที่ใช้จ่ายไปคืนทั้งหมด โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพฤหัสที่ 19 ก.ย.2562 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซ.อารีย์ ถ.พระราม 6 พญาไท กทม. นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด