ไม่พบผลการค้นหา
เฉลิมชัย สั่งทุกหน่วยงานสำรวจความเสียหายในพื้นที่ที่น้ำลดแล้วให้เสร็จใน 1 สัปดาห์ ย้ำเกษตรกรเดือดร้อนรอนานไม่ได้ จวกฝ่ายตรงข้ามโจมตีกระทรวงเกษตรฯ ทำงานล่าช้า อย่านำมาเป็นประเด็นทางการเมือง

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การเร่งระบายน้ำมูลที่ท่วมจังหวัดอุบลราชธานีเป็นไปอย่างรวดเร็วตามที่ได้สั่งการกรมชลประทาน ที่กำหนดว่า วันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป ประชาชนที่มาอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวต้องเริ่มกลับบ้านเรือนได้ ศูนย์บริหารจัดการอุทกภัยลุ่มน้ำชี-มูล (ส่วนหน้า) จังหวัดอุบลราชธานีได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำท้ายลำน้ำมูลทำให้ระบายลงสู่แม่น้ำโขงมากขึ้นถึงร้อยละ 30 ระดับน้ำลดลงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าระดับน้ำจะกลับสู่ตลิ่งในวันที่ 29 กันยายน คาดว่าจะเร็วกว่านั้น 3-4 วัน ซึ่งนับเป็นข่าวดีมาก หลังจากนี้กรมชลประทานจะเร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้กำชับว่าไม่ให้ระบายทิ้งทั้งหมด แต่ไปสำรวจหาพื้นที่ที่จะทำเป็นแก้มลิงเก็บกักน้ำไว้ใช้หน้าแล้งด้วย  

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พร้อมให้ทุกหน่วยงานเข้าสำรวจพื้นที่ที่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ เพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นที่เกษตรที่ได้รับความเสียหายให้เสร็จใน 1 สัปดาห์หลังน้ำลด โดยทุกจังหวัดจะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว อย่าให้มีเรื่องร้องเรียนถึงความล่าช้า กระทรวงเกษตรฯ ต้องสรุปจำนวนพื้นที่เสียหาย ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ กำหนดกรอบวงเงินงบประมาณภายใน 1 เดือน เกษตรกรถูกน้ำท่วมมานานเดือดร้อนมากแล้ว จำเป็นต้องช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพด่วนที่สุด

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า พื้นที่หนึ่งที่ยังเป็นห่วงคือ อำเภอเสลภูมิและเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ดซึ่งได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 กันยายน) มีฝนตกที่อำเภอบรบือซึ่งอยู่ทางเหนือของ 2 อำเภอนี้ วัดได้ 130 มิลลิเมตรซึ่งเป็นปริมาณฝนมากทำให้มีน้ำไหลลงมาเติมน้ำที่ท่วมอยู่แล้ว ซึ่งได้กำชับให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำที่ท่วมพื้นที่เกษตรลงสู่ลำน้ำยังและลำน้ำเสียวใหญ่ จากการตรวจสถานการณ์น้ำมาหลายพื้นที่นั้น เกษตรกรแจ้งว่า น้ำที่ท่วมพัดพาตะกอนดินมาทับถมในแปลงนาเช่นที่อำเภอเสลภูมิ ตะกอนดินหนา 30-50 เซนติเมตรจึงได้สั่งการกรมพัฒนาที่ดินเข้าไปปรับปรุงพื้นที่ให้เกษตรกร ตามระเบียบแล้วมีงบประมาณให้ไร่ละ 700 บาท

“ยืนยันว่า ไม่ทอดทิ้งประชาชน ผมเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ตั้งใจช่วยแก้ไขปัญหา ไม่ได้มาฮันนีมูน แล้วจะติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ อย่างใกล้ชิด และหวังว่า หากวันหนึ่งกลับไปยังพื้นที่ที่ได้แก้ปัญหาให้ ถึงแม้ว่า อาจจะไม่ได้กลับไปในตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เชื่อว่า สิ่งที่ทำจะทำให้ผมได้น้ำสักแก้วจากพี่น้องประชาชน ส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามโจมตีว่า กระทรวงเกษตรฯ ทำงานล่าช้านั้น ขอให้มาช่วยกันคนละไม้คนละมือดีกว่า ไม่ควรนำเรื่องความเดือดร้อนชาวบ้านไปขยายผลมาเป็นเกมการเมือง“ นายเฉลิมชัยกล่าว

อ่านเพิ่มเติม