ไม่พบผลการค้นหา
'ดร.นลินี' เดินหน้ายกระดับความร่วมมือไทย–เดนมาร์ก ครอบคลุมการค้า การลงทุน สุขภาพ พลังงานสะอาด โลจิสติกส์และการจัดการสิ่งแวดล้อม เมืองอัจฉริยะ–หนุนเจรจา FTA ไทย–อียู ชี้ธุรกิจเดนมาร์กสร้างงานในไทยกว่า 50,000 ตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ได้รับเชิญจาก นายแดนนี แอนนัน (H.E. Mr. Danny Annan) เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย เพื่อเป็น Guest Speaker ใน Breakfast Meeting ร่วมกับ Danish Business Club กลุ่มนักธุรกิจชั้นนำของเดนมาร์กที่ลงทุนในไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ โดยมีเป้าหมายหลักในการขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย–เดนมาร์ก และผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในสาขาต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไทย และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งไทยและเดนมาร์กเป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานถึง 167 ปี ทั้งนี้ ในปี 2567 ไทยและเดนมาร์กมีการค้ารวมที่ราว 813.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

การหารือครั้งนี้มีนักธุรกิจและผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทเดนมาร์กชั้นนำเข้าร่วม อาทิ Maersk Line ผู้ให้บริการขนส่งทางเรือรายใหญ่ของโลก, Pandora ผู้ผลิตอัญมณีรายใหญ่ที่มีฐานการผลิตในไทย, Novo Nordisk ผู้นำด้านเภสัชกรรมสำหรับโรคเบาหวานและโรคอ้วน DSV Air & Sea ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ, ECCO ผู้ผลิตรองเท้าคุณภาพสูงที่มีโรงงานในไทย รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ได้แก่ Linak, Falck, EOSVOLT, Essentia Protein Solutions และ LCB Container Terminal 1

ดร.นลินี กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทเดนมาร์กประมาณ 100 รายที่เข้ามาดำเนินธุรกิจและลงทุนในประเทศไทย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการผลิต บริการ โลจิสติกส์ และนวัตกรรม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างการจ้างงานให้กับแรงงานไทยกว่า 50,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรไทย และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและมาตรฐานระดับสากล โดยเฉพาะเทคโนโลยีสีเขียวที่เดนมาร์กมีความเชี่ยวชาญและพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมถึงการบริหารจัดการท่าเรือ และการขนส่งทางเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความร่วมมือด้านการแพทย์ โดยเฉพาะการป้องกันและลดภาวะน้ำหนักเกินในประชากรไทย

ในการหารือครั้งนี้ ท่านเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก และ ดร.นลินี ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับ ความคืบหน้าในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย–สหภาพยุโรป (Thailand –EU FTA) และแนวทางความร่วมมือในกรอบ OECD รวมถึงความพร้อมในการสนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิก OECD ของไทย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของ FTA และการเข้าเป็นสมาชิก OECD ที่จะช่วยยกระดับมาตรฐานเศรษฐกิจไทยให้เทียบเท่าสากล และเปิดตลาดใหม่ในสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงเดนมาร์ก ทั้งนี้ ภาคธุรกิจเดนมาร์กได้แสดงความสนับสนุนต่อความพยายามของไทยในการผลักดันให้การเจรจา FTA สามารถสรุปผลได้โดยเร็ว

นอกจากนี้ นักธุรกิจเดนมาร์กยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในสาขาที่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลไทย ได้แก่ สุขภาพ พลังงานสะอาด โลจิสติกส์ และ การจัดการสิ่งแวดล้อมเมือง เช่น การบริหารจัดการน้ำท่วมในเขตเมือง และการแปรรูปขยะเป็นพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นแนวทางที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ให้ความสนใจศึกษาเพื่อนำมาปรับใช้ ในขณะเดียวกัน นักธุรกิจเดนมาร์กก็ได้แสดงความสนใจเกี่ยวกับโครงการ Land Bridge 

ในโอกาสนี้ ยังได้มีการหารือถึงแนวโน้มสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ ผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐอเมริกา ทั้งในด้าน มาตรการภาษีศุลกากรต่างตอบแทน (reciprocal tariffs) และ การแข่งขันทางเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมมาตรการรับมือเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย รวมถึงผลักดันความร่วมมือในกรอบพหุภาคี เช่น อาเซียน และ WTO เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ