เจ้าหน้าที่ของไทยจับกุมและตั้งข้อหาชาวปากีสถาน 70 คนในข้อหาเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและอาศัยในไทยเกินกำหนดวีซ่าเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการปราบปรามผู้อพยพผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดในช่วงที่ผ่านมา โดยตำรวจเปิดเผยว่าสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 52 คนเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา หลังพบว่าพวกเขาจัดตั้งกลุ่มลักลอบนำชาวปากีสถานเข้ามาในไทย โดยมีเป้าหมายที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศที่ 3
ศาลแขวงตลิ่งชันได้สั่งปรับและจำคุก 2 เดือน แต่ให้รอลงอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลคดีนี้กล่าวว่าผู้ลี้ภัยเหล่านี้ รวมถึงเด็ก 11 คน จะถูกคุมขังในห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจนกว่าจะถูกส่งตัวกลับประเทศ
เอ็มมานูเอล ชาน หนึ่งในจำเลยระบุว่า ผู้ลี้ภัยชาวปากีสถานส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ และชาวมุสลิมนิกายอาห์มาดียา ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยทางศาสนาที่ถูกกดขี่อย่างหนักในปากีสถาน ดังนั้น การส่งพวกเขากลับประเทศจะทำให้พวกเขากลับไปเผชิญกับการกดขี่ทางศาสนา และอาจไม่ปลอดภัยกับชีวิตของพวกเขาอีกครั้ง
ในปี 1984 รัฐบาลปากีสถานได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า นิกายอาห์มาดียาไม่ใช่ศาสนาอิสลาม และหากคนที่นับถือนิกายอาห์มาดียาเรียกตัวเองว่าเป็นมุสลิม หรือใครที่ “แสร้งว่าเป็นมุสลิม” จะถูกลงโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี
นอกจากชาวปากีสถาน 70 คนแล้ว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองยังเปิดเผยว่าได้ตั้งข้อหาชาวต่างชาติ 24 คนที่อยู่เกินวีซ่า และอีก 11 คนที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ที่ผ่านมา ทางการไทยมักส่งชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอย่างผิดกฎหมายกลับประเทศ แม้พวกเขาจะได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR แล้วก็ตาม
ทั้งนี้ น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศของไทยระบุว่า ไทยไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ปี1951 และเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องจัดการกับการละเมิดกฎหมาย พร้อมชี้แจงว่ารัฐบาลจะจัดการกับผู้อพยพที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยของยูเอ็นเป็นรายกรณีได้
ด้านนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชียระบุว่า คนที่ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยหรืออยู่ในระหว่างการรอการพิจารณาสถานะผู้ลี้ภัยไม่ควรถูกควบคุมตัว พร้อมกล่าวว่า นี่เป็นนโยบายประชานิยมที่ละเมิดส��ทธิมนุษยชนและทำให้ไทยดูเสื่อมเสียและโหดร้าย
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมมีคำสั่งให้มีปฏิบัติระยะเวลา 1 เดือนในการปราบปรามนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินวีซ่า ขณะที่พล.ต.ท. สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า รัฐบาลได้สั่งให้ตำรวจปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการปราบปรามชาวต่างชาติที่ทำผิดกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง
ที่มา : AP