ไม่พบผลการค้นหา
ครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ. กำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ให้อำนาจ รมว. คลัง เป็นประธานคณะกรรมการ ตั้งสำนักงงานฯ มีสถานะเป็นนิติบุคคล มุ่งกำกับดูแลพิโกไฟแนนซ์-คาร์ฟอร์แคช-เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง-แฟคตอริ่ง

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการร่าง พ.ร.บ.การกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ....ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญคือการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน โดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน มีหน้าที่กำหนดนโยบายในการส่งเสริม และกำกับดูแลการประกอบกิจการทางการเงิน รวมทั้งจะมีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐมีฐานะเป็นนิติบุคคล แต่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ 

"เหตุที่ต้องออก พ.ร.บ.ฉบับนี้ เพราะปัจจุบันสถาบันการเงินหลักๆ ของเรามีคนกำกับดูแลอยู่แล้ว แต่จะมีผู้ให้บริการทางการเงินบางประเภท เช่น ลีสซิ่ง แฟคตอริ่ง หรือ คาร์ฟอร์แคช ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานภาครัฐไปกำกับดูแลชัดเจน จึงใช้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในการกำกับดูแลอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้นเพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลอย่างเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน และส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ จึงมีการเสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ขึ้น" นายณัฐพรกล่าว

นอกจากนี้ ในร่าง พ.ร.บ.ยังได้กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่มาขึ้นทะเบียน โดยต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์วิธีการ หรือเงื่อนไขที่คณะกรรมการฯ ประกาศกำหนดจะต้องมีโทษปรับไม่เกิน 3 แสนบาท รวมทั้งมีโทษทางอาญาสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือไม่อำนวยความสะดวกแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ โดยระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"สิ่งที่สำนักงานฯ จะเข้ามากำกับดูแล เช่น กลไกการกำหนดค่าธรรมเนียม วิธีการคิดดอกเบี้ย และวิธีการทวงหนี้ ซึ่งช่วงแรกจะขอให้มาขึ้นทะเบียนไว้ก่อน จะได้รู้บ้างว่าใครเป็นผู้ให้บริการเหล่านี้ เพื่อจะได้ควบคุมดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้บริโภคได้ หลังจากนั้นจะมีการพิจารณากฎระเบียบต่างๆ ว่าควรจะต้องควบคุมดูแลด้านใดบ้าง" นายณัฐพรระบุ

ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการของร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. .... (ร่าง พ.ร.บ.ฯ) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ให้บริการทางการเงินบางประเภท ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ แต่ยังไม่มีหน่วยงานภาครัฐกำกับดูแลอย่างชัดเจน ทำให้การประกอบธุรกิจขาดแนวปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานและเป็นธรรม 

ดังนั้น เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเป็นการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศ จึงจำเป็นต้องออกกฎหมายเพื่อรองรับการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินดังกล่าว  

ร่าง พ.ร.บ.ฯ ประกอบด้วยบทบัญญัติ 3 หมวด 74 มาตรา โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้รักษาการ การกำกับจะดำเนินการโดยคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยมีการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงินมีฐานะเป็นหน่วยงานของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด  

เน้นคุม พิโกไฟแนนซ์-สินเชื่อทะเบียนรถ-เช่าซื้อ-ลีสซิ่ง-แฟคตอริ่ง

ในระยะเริ่มแรกจะมีการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินใน 2 กลุ่มหลัก 5 กลุ่มย่อย ได้แก่  

  • 1) ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทให้สินเชื่อ ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) และสินเชื่อที่มีการรับสมุดคู่มือจดทะเบียนรถเป็นประกันการชำระหนี้ (สินเชื่อทะเบียนรถ) โดยผู้ให้บริการกลุ่มนี้จะต้องได้รับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจจากสำนักงาน
  • 2) ผู้ให้บริการทางการเงินประเภทที่มีลักษณะคล้ายการให้สินเชื่อ ได้แก่ การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง และแฟคตอริ่ง เป็นทางค้าปกติ โดยผู้ให้บริการกลุ่มนี้จะต้องขึ้นทะเบียนในการประกอบธุรกิจกับสำนักงาน

อย่างไรก็ดี ผู้ให้บริการทางการเงินข้างต้น ไม่รวมถึงการให้บริการทางการเงินที่ดำเนินการโดยสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารหรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้ง บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการทางการเงินที่ให้บริการทางการเงินแก่บริษัทในเครือเดียวกันกับผู้ให้บริการทางการเงินเป็นการเฉพาะ 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาจประกาศกำหนดให้ผู้ให้บริการทางการเงินซึ่งมีกฎหมายกำกับดูแลเป็นการเฉพาะอยู่แล้วไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัตินี้ก็ได้เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการกำกับดูแล และในอนาคตหากมีความจำเป็นก็สามารถเพิ่มประเภทของผู้ให้บริการทางเงินอื่น ๆ เข้ามาอยู่ในกำกับดูแลของร่าง พ.ร.บ.ฯ ได้ โดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเพิ่มเติม

การออกกฎหมายดังกล่าว กระทรวงการคลังมุ่งเน้นการกำกับดูแลด้านการให้บริการให้มีมาตรฐานและมีการปฏิบัติต่อผู้บริโภคอย่างเป็นธรรม (Market Conduct) ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการทางการเงินดังกล่าว ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินทั้ง 5 ประเภทได้อย่างมั่นใจ รวมทั้งจะช่วยให้ภาครัฐมีข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินประเภทต่างๆ อย่างเพียงพอเพื่อช่วยส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ทั่วถึงและเป็นธรรมของประชาชนต่อไป