นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือบีซีพีจี เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จากนี้ไป นอกจากการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศแล้ว ยังจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทย ด้วยการเป็นผู้นำร่องการนำ Blockchain Technology เข้ามาใช้ในการซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นรายแรกในประเทศสร้างประสบการณ์ใหม่ในการนำพลังงานสีเขียวสู่ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค (New Experience in Green Energy)
"ผลักดันการนำพลังงานหมุนเวียนมาสร้างสังคมสีเขียว (green society) ในที่พักอาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงานฯลฯ เริ่มต้นจากการที่ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าของอาคารสถานที่สามารถผลิตไฟฟ้าและใช้เองภายในอาคาร จนกระทั่งขยายให้แต่ละอาคารสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนพลังงาน ด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคา (Solar Rooftop) ของอาคารหรือบ้านพักอาศัย "
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เองและสามารถขายไฟให้กับระบบได้หากเหลือใช้ บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบซื้อขายไฟ (Energy Trading) ของผู้อยู่อาศัยด้วยการซื้อขายไฟทางอินเตอร์เน็ต (Internet of Energy) โดยการใช้ Blockchain Technology ที่จะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าที่เคยเป็นเพียงผู้บริโภค สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าได้ ในกรณีที่มีไฟฟ้าเหลือจากการใช้เอง จะสามารถขายไฟฟ้าดังกล่าวให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในย่านที่พักอาศัยเดียวกันได้โดยผ่านแอพพลิเคชั่น บนโทรศัพท์มือถือ เป็นรายแรกในประเทศไทย
ทั้งนี้ บางจากได้ร่วมกับแสนสิริ จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการชุมชนพลังงานสีเขียวอัจฉริยะ (Smart Green Energy Community) โดยมี 5 โครงการเข้าร่วมประกอบด้วย โรงแรม 2 แห่ง คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนและโรงงานประเภทละ 1 แห่ง และมีโครงการอื่นๆ กว่า 20 โครงการ โดยบางจากจะเป็นผู้ลงทุนติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการสามารถผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดได้ด้วยตนเอง
"บีซีพีจีพร้อมแล้วที่จะกลับมารุกธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในประเทศอีกครั้ง แต่ในรูปแบบแตกต่างออกไปจากเดิม ถือเป็นการกลับบ้านโดยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาพลิกโฉมธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าของพลังงานผ่านธุรกิจการซื้อขายไฟผ่านอินเตอร์เน็ตและการบริหารจัดการพลังงาน"
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า การผลิตไฟฟ้าของผู้บริโภคจะเป็นทางเลือกใหม่ในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้ให้กับผู้ร่วมโครงการ และช่วยลดภาระของรัฐบาลในการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของการใช้ไฟฟ้าของประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บีซีพีจีกำลังศึกษาและพัฒนาระบบสมาร์ท โฮม (Smart Home) สมาร์ทกริด (Smart Grid) สมาร์ท ซิตี้ (Smart City) และการบริหารจัดการพลังงาน (Demand Side Management) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด