เฟซบุ๊ก สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ออกประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้มีข่าวเท็จที่แพร่สะพัดในหมู่ชาวกัมพูชาในประเทศไทย เกี่ยวกับการกล่าวอ้างว่า มีเจ้าหญิงกัมพูชาพระองค์หนึ่ง ชื่อ เจ้าหญิงสีสุวัต กุสะมะมุนีรัตนา อาศัยอยู่ที่ประเทศไทย และกำลังจะไปพบปะชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย ในช่วงปลายเดือนนี้ (พ.ค.) 

โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 61 ที่ผ่านมา ที่บ้านโดง ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้จัดพิธีเปิดถนนสวรรค์นิมิต โดยมี พระสมุห์ชิง ฐานวีโร หรือหลวงพ่อดิง เจ้าอาวาสวัดหนองป่ามหาไทย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีบุคคลซึ่งอ้างว่าเป็น พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ เพชรทาวี พระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เสด็จเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในการเปิดถนนนี้อย่างเป็นทางการ มีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยเข้ม ท่ามกลางความดีใจของชาวบ้านนับพันคน

ทางสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย โพสต์หนังสือและปฏิเสธข่าวดังกล่าว ที่มีการนำเสนอ ปรากฏผ่านสื่อ หลายสำนักระบุว่าเป็นข่าวลวง อย่าได้หลงเชื่อ และหากใครมีข้อมูลสามารถส่งเรื่องเข้ามาได้ที่สถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย

ล่าสุดหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีการตรวจสอบกรณี พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า เป็นเชื้อพระวงศ์จริง แต่เป็นคนละราชนิกุลกับพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของกัมพูชา และ กรณีอ้างว่าเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดมสีหมุนี นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เนื่องจากพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันทรงเป็นโสด

การเคลื่อนไหวในประเทศไทยที่ผ่านมา ผู้กล่าวอ้างเข้าไปมีบทบาทในพื้นที่ จ.สุรินทร์ บุรีรัมย์ และ จ.ศรีสะเกษ ในการเดินทางไปเป็นประธานร่วมในงานบุญตามวัดต่างๆ โดยมีนายศักด์ จันตุม หรือ จันตุม ศักดิ์ อ้างว่ามียศทางทหาร พล.ต. สังกัดหน่วยองครักษ์ เป็นธุระในการติดต่อประสานงานในการข้ามแดนมาร่วมงานในแต่ละครั้ง ทราบว่า นายศักดิ์ จันตุม จะเรียกรับผลประโยชน์จากวัด หรือ คณะกรรมการวัดในการติดต่อร่วมงานบุญพิธีต่างๆ ตามวัดที่ต้องการเชิญ พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา เป็นประธานร่วมฝ่าย กัมพูชา

แต่ละงานเจ้าภาพจะต้องออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดตลอดการเดินทางและพักอาศัยทั้งของพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตนา และคณะไม่ต่ำกว่า 5 คน ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ มักจะพักในโรงแรมทองธารินทร์ จ.สุรินทร์ ซึ่งราชนิกุลในกัมพูชา ที่มีสิทธิ์ขึ้นครองราชย์ มีแค่ 2 ราชนิกุลนี้เท่านั้น ส่วนคนที่ชื่อ จัน ตุม เคยมาศึกษาที่ รร.ประสาทวิทยาคาร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ครอบครัวอพยพมาในยุคสงคราม และเป็นพวกฟุนซินเปค

ก่อนหน้านี้ "เจ้าหญิงเก๊" เคยเดินทางมาปฏิบัติภารกิจในประเทศไทยหลายครั้ง ซึ่งมีทั้งสื่อ เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อ ทั้งนี้ สถานทูตกัมพูชาจึงขอให้ประชาชนแจ้งข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของบุคคลแอบอ้างดังกล่าวมายังสถานทูตผ่านทางเบอร์โทร 086-7999957 , 092-8050561 , 064-7547401