หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษพยายามจะขอร้องไม่ให้เจ้าชายแฮร์รีทรงเชิญนายโอบามาและภริยาไปร่วมงานพิธีเสกสมรสของพระองค์ที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม 2561 เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ เพราะเป็นที่รู้กันว่าประธานาธิบดีทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์นายโอบามาอยู่เนืองๆ ในขณะที่อีกด้าน เขาเองก็ยังมีปัญหาในเรื่องการได้รับเชิญไปเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ
ก่อนหน้านั้นเคยมีรายงานข่าวที่กะเก็งเรื่องว่านายทรัมป์จะได้รับเชิญให้ไปร่วมพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรีหรือไม่ เดอะเทเลกราฟรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษ ระบุว่าโอกาสคงจะมีน้อย ส่วนหนึ่งเพราะงานเช่นนี้ไม่มีการเชิญผู้นำหรือประมุขของประเทศ อีกด้านหนึ่งความสัมพันธ์ของนายทรัมป์กับอังกฤษเผชิญปัญหามาตลอด
สื่ออังกฤษหลายรายรายงานตรงกันว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงใกล้ชิดกับอดีตประธานาธิบดีโอบามาและภริยา โดยเฉพาะหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างมีบทบาทในการจัดงานการแข่งขันกีฬาสำหรับทหารพิการ นายโอบามาทวีตแสดงความยินดีกับข่าวที่ทรงหมั้นกับเมแกน มาร์เคิล ล่าสุด สื่อรายงานเรื่องที่เจ้าชายแฮร์รีทรงสัมภาษณ์นายโอบามาให้กับเรดิโอโฟร์ของบีบีซีเพื่อจะนำไปออกในวันที่ 27 ธ.ค. ในคลิปที่มีการนำมาเปิดเผย นายโอบามาถามในเชิงล้อว่าเขาจะต้องพูดด้วยสำเนี���งอังกฤษด้วยหรือไม่ ในขณะที่เจ้าชายแฮร์รีตรัสว่า ถ้านายโอบามาหยุดพูดนานเกินไปจะทรงชักสีหน้าใส่ ในขณะที่อีกด้าน ข่าวระบุว่าทั้งเจ้าชายแฮร์รีและพระคู่หมั้นไม่ชื่นชมนายทรัมป์ เทเลกราฟระบุว่า เมแกน มาร์เคิลเคยโพสต์แสดงความไม่ชอบใจนายทรัมป์มาแล้วในช่วงที่เขาหาเสียงเลือกตั้ง เธอเรียกนายทรัมป์ว่าเป็นพวกเกลียดผู้หญิง และสร้างความแตกแยก
สถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ ที่เคยเป็นพันธมิตรแนบแน่นในเวทีการเมืองโลกหลายสมัยนั้นกลับเย็นชาลงในช่วงของนายทรัมป์ โดยเฉพาะหลังจากที่นายทรัมป์รีทวีตวิดีโอคลิปของกลุ่มบริเทนเฟิร์ส ที่ถือว่าเป็นกลุ่มขวาสุดโต่งในอังกฤษ และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษออกมาตำหนิในเรื่องนี้แล้วก็ถูกนายทรัมป์ทวีตตอบโต้ และในการออกเสียงของสหประชาชาติในกรณีที่สหรัฐฯ ตัดสินใจรับรองเยรูซาเลมในฐานะเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลก็มีเหตุให้สองประเทศกระทบกระทั่งกันมากขึ้นไปอีก เมื่ออังกฤษร่วมลงมติคัดค้านการกระทำดังกล่าวของสหรัฐฯ
การลงคะแนนเสียงของสมาชิกยูเอ็นหนนั้นทำให้สหรัฐฯ ไม่พอใจอย่างมาก นอกจากประกาศจะลดจำนวนเงินสมทบให้กับยูเอ็นลง อีกด้านก็ขู่สมาชิกยูเอ็นที่ลงมติค้านว่า สหรัฐฯ จะจดจำการกระทำนี้เอาไว้ คำเชิญของอังกฤษที่จะให้นายทรัมป์มาเยือนค่อยๆ ลดน้ำเสียงลงจากที่เคยมีการพูดถึงระดับว่าจะให้เขาไปกล่าวปราศรัยในรัฐสภาเหลือลงเพียงการไปเยือนเพื่อการทำงานร่วมกันเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ หมายการเยือนอังกฤษของนายทรัมป์ยังถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหลังสุด สื่ออังกฤษรายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า หมายเยือนอังกฤษของนายทรัมป์กำหนดแน่นอนแล้วให้เป็นปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2561 และเขาจะถือโอกาสเปิดสถานทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ในกรุงลอนดอน ข่าวนี้ทางการอังกฤษระบุว่าต้องรอให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยัน แต่ข้อมูลที่รั่วออกมาก็ทำให้กลุ่มที่ไม่พอใจนายทรัมป์วางแผนจะจัดประท้วง
นอกจากนี้เดลีเมลรายงานว่า ในหมายเยือนของนายทรัมป์ไม่รวมการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เข้าไปด้วย เพราะมีชาวอังกฤษจำนวนมากร่วมกันลงชื่อค้าน อ้างว่าจะทำให้ทรงอึดอัดพระทัย ดังนั้นการที่เจ้าชายแฮร์รีทรงแสดงเจตนาชัดเจนว่าอยากให้นายโอบามาเข้าร่วมงานในพิธีเสกสมรสด้วย ทำให้บรรดาเจ้าหน้าที่อังกฤษวิตกไปตามๆ กัน เพราะเกรงว่าจะยิ่งกระทบความสัมพันธ์หนักขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม เดอะซันระบุว่า เนื่องจากงานพิธีเสกสมรสหนนี้จะไม่ใช่งานทางการ และรัฐบาลอังกฤษอยู่ในสถานะเป็นเพียงให้คำปรึกษาสำหรับการจัดงาน ซึ่งจะไม่มีการเชิญผู้นำรัฐบาลหรือประมุขประเทศเข้าร่วม ดังนั้นรายชื่อผู้เข้าร่วมในงานจะเป็นไปตามพระประสงค์ของเจ้าชายแฮรีและพระคู่หมั้นที่จะเป็นผู้เลือกสรรด้วยตัวเอง ดังนั้นทางการอังกฤษจึงไม่มีสิทธิที่จะก้าวก่าย เว้นเสียแต่ว่านายกรัฐมนตรีจะเข้าแทรกแซง
อ่านเพิ่มเติม:
กรณี 'เจ้าชายแฮร์รี-เมแกน' เป็นภาพสะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคมอังกฤษ