เว็บไซต์ CNN Money รายงานว่า ร้านแฟรนไชส์แซนด์วิชชื่อดังอย่าง ซับเวย์ (Subway) เตรียมปิดร้านสาขากว่า 500 แห่งทั่วอเมริกหาเหนือ เพื่อปรับปรุงและเปลี่ยนโลเคชั่นครั้งใหญ่ โดยการปรับปรุงนี้บริษัทแม่ของซับเวย์ได้กำหนดให้เจ้าของแฟรนไชส์ทุกสาขาต้องลงทุนเพิ่ม เพื่อยกระดับการให้บริการและอำนวยความสะดวกภายในร้านซับเวย์ โดยจะต้องมีการลงทุนติดตั้งเครื่องเลือกเมนูอาหารอัตโนมัติ การให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไวไฟฟรีกับลูกค้า พร้อมทั้งมีจุดชาร์จแบตเตอร์รีโทรศัพท์ฟรีอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การประกาศปิดสาขาของซับเวย์ถือเป็นเรื่องที่ใหม่และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก แม้จะมีการรายงานว่าในปี 2017 ที่ผ่านมา ซับเวย์ได้ปิดสาขาไปมากกว่า 100 สาขา แต่การประกาศปิด 500 สาขาในครั้งนี้มีเป้าหมาย เพื่อจะปรับขนาดองค์กรให้เล็กลง แต่สามารถสร้างกำไรเพิ่มขึ้น โดยหลังจากปิดสาขาไป 500 แห่งแล้ว ซับเวย์มีโครงการจะเปิดสาขาใหม่ในต่างประเทศอย่างน้อย 100 สาขาทั่วโลก

หากเทียบจำนวนของร้านอาหาร Subway ในปัจจุบัน Subway ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีสาขามากที่สุด โดยมีจำนวนถึง 44,000 สาขาทั่วโลก ขณะที่บริษัท 'ยัมแบรนด์ส' เจ้าของพิซซ่าฮัท ทาโก้เบล และเคเอฟซี มีสาขารวมกันเพียง 17,500 แห่ง ส่วนแมคโดนัลด์สมีสาขาทั่วโลกเพียง 14,000 สาขาเท่านั้น ซึ่งเหตุผลหลักที่ซับเวย์สามารถเปิดสาขาได้มากกว่าหลายเท่า ก็เพราะว่าสาขามีขนาดที่เล็กกว่า ทำให้มีต้นทุนที่ต่ำกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• เมื่อฝรั่งเศสขายจิตวิญญาณทางอาหารให้กับแมคโดนัลด์
• สื่อนอกสงสัย ทำไมมีร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ เยอะมาก