'ออสติน บุช' ช่างภาพและนักเขียนชาวอเมริกัน ที่เคยได้รับทุนมาศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ช่วงปี 2542 จัดพิมพ์แนะนำอาหารท้องถิ่นในภาคเหนือของไทย และซีเอ็นเอ็นได้นำอาหาร 9 อย่างมาเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ของตัวเองเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) พร้อมระบุว่า อาหารบางอย่างอาจไม่คุ้นลิ้นสำหรับคนที่เคยชินอาหารภาคกลาง แต่ก็ถือว่าเป็นรสชาติที่ควรลิ้มลอง และอาหารบางอย่างอาจจะหารับประทานได้ในกรุงเทพฯ แต่รสชาติไม่เหมือนกับที่พบในภาคเหนือ
1.ข้าวซอย คือ เมนูแรกที่ซีเอ็นเอ็นหยิบมาแนะนำโดยอ้างอิงข้อมูลจากหนังสือ The Food of Northern Thailand โดยระบุว่าเป็นอาหารเหนือยอดนิยมและหารับประทานได้ง่าย เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเนื้อหรือไก่ที่เคี่ยวในน้ำแกง ผักดอง และหมี่กรอบ แต่บุชแนะนำผู้อ่านหนังสือของเขาว่าข้าวซอยที่อร่อยมักจะอยู่ในเชียงใหม่ และยกให้ร้าน 'ข้าวซอยปรินส์' เป็นร้านที่ถูกใจมากที่สุด โดยระบุว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารอิสลาม จึงมีเฉพาะเนื้อและไก่ แต่แตกต่างจากข้าวซอยร้านอื่นๆ เพราะนอกจากน้ำข้าวซอยแล้วยังมีการใส่กะทิเพิ่มลงไปด้วยขณะเสิร์ฟ
2.ขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่บุชระบุว่าเป็นอาหารยอดนิยมของภาคเหนือ แต่ร้านที่เขาแนะนำคือร้าน 'ขนมจีนป้าบุญศรี' ใน จ.ลำปาง ซึ่งมีจุดเด่นตรงพริกที่นำมาทำน้ำเงี้ยวนั้นมาจากการอบแห้งในเตาแบบโบราณ ทำให้มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้น้ำเงี้ยวหอมและเข้มข้น
3.น้ำพริกหนุ่ม ถูกแนะนำว่าเป็นเครื่องจิ้มที่มาคู่กับผักชนิดต่างๆ แต่บุชแนะนำว่าน้ำพริกหนุ่มที่อร่อยมากสำหรับเขา คือ น้ำพริกหนุ่มของร้าน 'ข้าวนึ่งไก่ทอดเที่ยงคืน' จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีรสชาติเผ็ดร้อน แต่อร่อยและเข้ากันดีกับไก่ทอดกรอบ แม้จะน่าเป็นห่วงเรื่องแคลอรี เพราะน้ำมันที่ใช้ทอดไก่ แต่ความอร่อยก็จะช่วยให้ลืมทุกอย่างไปได้
4.ข้าวซอยน้ำหน้า ซึ่งแม้จะมีชื่อว่า 'ข้าวซอย' แต่มีวิธีการปรุงต่างจากข้าวซอยทั่วไป เพราะข้าวซอยน้ำหน้าไม่ใช้กะทิในน้ำซุป แต่จะใช้เนื้อหมูคั่วกับเครื่องแกงและ 'ถั่วเน่า' เพื่อนำมาทำน้ำซุปที่เข้มขันและหอมมัน โดยร้านข้าวซอยน้ำหน้าที่บุชแนะนำ คือ ร้าน 'ป้าอ่อน ข้าวซอยสิบสองปันนา' ใน จ.เชียงราย ซึ่งข้าวซอยน้ำหน้านี้มีที่มาจากสิบสองปันนา กินกับผักลวก เช่น ยอดถั่วลันเตา กะหล่ำปลีหั่นฝอย และถั่วงอก
5.ข้าวแต๋น เป็นขนมกรอบแบบดั้งเดิมที่บุชระบุว่าสามารถรับประทานหรือนำไปเป็นของฝากให้ชาวต่างชาติได้เช่นกัน เพราะเพื่อนต่างชาติของเขาชอบข้าวแต๋นมาก แม้จะเป็นข้าวทอดที่โรยด้วยน้ำตาลเคี่ยว แต่รสชาติของทั้งสองอย่างช่วยให้ขนมกินเล่นอร่อยลงตัว โดยบุชแนะนำว่าร้านที่เด็ดสำหรับเขา คือ ร้านข้าวแต๋นน้ำแตงโม คุณมณี จ. ลำปาง
6.ข้าวกั๊นจิ๊น เป็นสูตรอาหารที่สืบทอดมาจากชาวไทใหญ่ แต่แพร่หลายในภาคเหนือมานานแล้ว โดยบุชระบุว่าชื่ออาหารชนิดนี้แปลตรงว่า ข้าวนวด ซึ่งจะต้องคลุกเคล้าข้าวให้เข้ากับเลือดและเนื้อหมูก่อนจะนึ่งในใบตอง จากนั้นจึงนำมารับประทานคู่กับน้ำมันกระเทียม หอมแดง แตงกวา พริกทอด
บุชแนะนำว่าชาวต่างชาติอาจไม่คุ้นเคยกับการใช้เลือดปรุงอาหาร โดยเฉพาะชาวอเมริกัน แต่ถ้าไม่ได้บอกว่าข้าวกั๊นจิ๊นมีเลือดผสมอยู่ คนที่รับประทานก็อาจจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำ เพราะกลิ่นและรสของเมนูนี้ลงตัวกลมกล่อม ส่วนร้านที่บุชแนะนำว่าอร่อย คือ ร้านข้าวเส้นยายจ่าง ใน จ.แม่ฮ่องสอน
7.จิ๊นตุ๊บ หรือ 'เนื้อทุบ' เป็นเมนูที่บุชแนะนำว่าดูเหมือนจะไม่ซับซ้อนอะไร แต่ร้านที่ทำแล้วอร่อย ยกให้ 'ร้านแม่หลวงเพ็ญ' จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งหมักเนื้อกับซอสรสเค็ม และใช้เวลาย่างเนื้อนานหลายชั่วโมงจนเนื้อนั้นแห้งและหอมกลิ่นถ่าน จากนั้นก็นำเนื้อมาทุบเพื่อรับประทานได้ง่าย
8.ลาบหมูคั่ว ซึ่งบุชแนะนำว่าร้านที่ทำลาบแบบนี้อร่อย คือ 'ครัวจิ้นสด' จ.แพร่ พร้อมย้ำว่า ลาบหมูแบบเหนือนั้น แตกต่างจากลาบหมูแบบอีสานซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกาช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะลาบหมูคั่วนั้นไม่มีรสเปรี้ยวนำ และไม่มีผักเคียงขณะปรุง จึงมีรสชาติของเนื้อหมูที่ชัดเจนกว่า ผสมกับเครื่องเทศหลายอย่างที่รวมกันแล้วให้รสชาติที่ลงตัวและมีกลิ่นเฉพาะตัว
9.หมูพันปี เป็นอาหารยูนนาน แต่หารับประทานได้ในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของไทย มีวัตถุดิบหลักๆ คือ หมูสามชั้น นำมาหมักและนึ่งพร้อมกับผักกาดดองและใบชาอู่หลง ร้านแนะนำสำหรับเมนูนี้ คือ ร้านซื่อไห่ บนดอยแม่สลอง จ.เชียงราย พร้อมระบุว่า เจ้าของร้านนี้เป็นชาวจีนอพยพรุ่นที่ 2 ที่มาอยู่ในไทยหลังกองทัพคอมมิวนิสต์ยึดจีน
ที่่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: