นักลงทุนแสดงความกังวลอย่างชัดเจนว่าบริษัทอินเทล ผู้ผลิต CPU รายใหญ่ของโลก จะสามารถเอาตัวรอดได้หรือไม่ในอนาคตหลังจากมีการรายงานของเว็บไซต์ต่างประเทศอย่าง CNN และ Bloomberg โดยอ้างอิงจากแหล่งข่าววงในซึ่งระบุว่าบริษัทแอปเปิล ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก อาจจะทำการยกเลิกการสั่งซื้อ CPU จาก Intel ทั้งหมดและมีกำหนดเวลาที่จะยกเลิกการสั่งซื้อดังกล่าวภายในปี 2020 หรืออีกเพียง 2 ปีข้างหน้าหลังจากนี้เท่านั้น
การเปิดเผยดังกล่าวส่งผลกระทบกับหุ้นของบริษัทอินเทลอย่างหนัก โดยมูลค่าหุ้นของอินเทลลดลงไปทันทีสูงสุดถึง 8% ระหว่างวันก่อนจะดีดตัวกลับมาอยู่ที่ 6% เมื่อช่วงเวลาการปิดตลาดเมื่อวานนี้ (2 เมษายน) ตามเวลาสหรัฐฯ
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการปรับตัวของแอปเปิลที่ต้องการจะใช้ยุทธศาสตร์ใหม่ในการปรับให้อุปกรณ์ของแอปเปิลทุกชนิดสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไร้รอยต่อด้วย CPU ของแอปเปิลเองทั้งหมด โดยปัจจุบัน iPhone, iPad, Apple TV และ Apple Watch นั้นล้วนแต่ใช้ CPU ที่แอปเปิลผลิตเองทั้งสิ้น ยกเว้นคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลหรือ Mac ที่เป็นระบบแม็คอินทอชซึ่งยังคงใช้ CPU ของอินเทลตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา
ในช่วงปี 2006 นายพอล โอเทลลินี ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของอินเทลอยู่ในขณะนั้นได้จับมือกับนายสตีฟ จ็อบส์ อดีตผู้นำของแอปเปิล ในการทำธุรกิจร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ จนทำให้แอปเปิลกลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของอินเทลเสมอมา ซึ่งรายได้หลักของอินเทลเองมาจากการผลิต CPU ให้กับคอมพิวเตอร์ยี่ห้อต่างๆ
CPU คืออุปกรณ์ชิ้นที่มีหน้าที่สำคัญที่สุดในการประมวลผลให้กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรือการทำหน้าที่เป็นสมองของคอมพิวเตอร์นั่นเอง โดยข้อมูลจากไตรมาสสุดท้ายของปี 2017 ที่ผ่านมาชี้ว่าคอมพิวเตอร์ของแอปเปิลที่ยังใช้งาน CPU จากอินเทลอยู่ คิดเป็น 7% ของสัดส่วนการตลาดของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในปัจจุบัน ฉะนั้นความเป็นไปได้ในการผลิต CPU ขึ้นเองของแอปเปิลจึงจะส่งผลเสียต่อสเถียรภาพของบริษัทอินเทลอย่างรุนแรง