ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยอีก 3 ปีข้างหน้า อาจพิจารณาให้บุคคลทั่วไปปลูกกัญชาภายใต้ความดูแลของรัฐ หลังครม.ไฟเขียวนำมาทดลองวิจัยรักษาโรคในคนได้

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวว่า ปัจจุบันพ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ศ. 2522 ยังกำหนดให้พืชกัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 5 เช่นเดียวกับ กระท่อม ฝิ่น และเห็ดขี้ควาย แต่หลังจากครม. มีมติเห็นชอบในหลักการให้แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับพืชสารเสพติด โดยอนุญาตให้นำกัญชามาใช้ในการทดลองวิจัยรักษาโรคในคนได้นั้น ต้องยอมรับว่าการนำกัญชามาใช้จะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยทางการแพทย์ นอกจากนี้ กฎกระทรวงสาธารณสุขได้ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้อนุญาตให้หน่วยงานของรัฐปลูก หรือผลิตกัญชาเพื่อใช้ในการทดลองและวิจัยได้ เช่นเดียวกับทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยรังสิตและมหาวิทยาลัยมหิดลที่ขออนุญาตปลูกและเสนอโครงการทดลองเพื่อใช้ในการทำสเปรย์รักษาโรคมะเร็ง และบรรเทาอาการปวด

ทั้งนี้ มติครม.ฉบับดังกล่าวให้อำนาจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ เป็นผู้ควบคุมการผลิต นำเข้า หรือส่งออก รวมทั้งครอบครองเพื่อศึกษาวิจัย ส่วน ป.ป.ส. มีอำนาจในการกำหนดเขตพื้นที่ทดลองปลูก ผลิต และทดสอบสารเสพติดที่อยู่ในกัญชา โดยต้องมีการควบคุมอย่างใกล้ชิด

นายศิรินทร์ยา กล่าวยืนยันว่า ป.ป.ส.สนับสนุนการใช้พืชกัญชารักษาโรคและใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ แต่ยังไม่อนุญาตให้ใช้เสรีหรือเสพเพื่อความบันเทิง เพราะเกรงจะเกิดปัญหาและส่งผลกระทบกับเยาวชนในระยะยาว ดังนั้นกัญชายังถือเป็นยาเสพติดประเภท 5 ที่มีโทษเหมือนเดิม การเสพกัญชาจะใช้เพื่อประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการรักษาโรคไม่ได้

"กัญชงยังเป็นยาเสพติดประเภท 5 เหมือนกัญชา แต่ได้มีการอนุญาตให้เป็นพืชเศรษฐกิจ โดยรัฐเป็นผู้ควบคุม อนุญาตให้โครงการหลวงและโรงงานยาสูบปลูกในแปลงทดลอง เพื่อนำไปทำวิจัย ส่วนอีก 3 ปี อาจจะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้บุคคลทั่วไปปลูกกัญชาโดยรัฐควบคุมพื้นที่ปลูกได้หรือไม่ เพื่อสนับสนุนหรือทำลองทางการแพทย์เท่านั้น" นายศิรินทร์ยา กล่าว


อ่านเพิ่มเติม: