เวลา 16.00 น. พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยมีแกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมผลัดเปลี่ยนขึ้นปราศรัยท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังแน่นลานคนเมือง ขณะเดียวกัน นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางมาให้กำลังใจ โดยมีประชาชนร่วมถ่ายภาพกับนายพานทองแท้ก่อนที่นายพานทองแท้จะเดินทางกลับ โดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ประกาศบนเวทีพรรคเพื่อไทยว่ามีประชาชนมาฟังพรรคเพื่อไทยปราศรัยกว่า 30,000 คน
เวลา 18.30 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ปราศรัยตอนหนึ่งว่า รัฐบาล คสช.ยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2557 จนถึงขณะนี้ยังมาบอกว่า “มึงมาไล่ดูสิ” มีคนบอกว่าจะเสนอตัวเป็นนายกฯ ควรลาออกจากหัวหน้า คสช. และนายกฯ แบบ 4 รัฐมนตรีลาออก แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กลับมาบอกให้มาไล่ดู ทั้งนี้ เมื่อมีการยึดอำนาจตั้งกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ และกรรมการร่างรัฐธรรมนูญมายกร่างรัฐธรรมนูญ โดยเขียนรัฐธรรมนูญโดยให้ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง 244 คนโดย คสช. และอีก6 คนมาจากผู้นำเหล่าทัพ
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงมั่นใจว่ามาไล่ดู เพราะมี ส.ว. 250 เสียงอยู่ในมือและส่งกุมารมาตั้งพรรคพลังประชารัฐ โดยรัฐธรรมนูญตั้งแต่ปี 2540 ให้โหวตนายกฯ ในสภาโดยเปิดเผย แต่ครั้งนี้จะโหวตนายกฯ ได้ต้องมีเสียง ส.ว. และ ส.ส.เกิน 375 เสียง หากจะทำให้รัฐธรรมนูญนี้ไม่ทำงาน มีวิธีคือเลือกพรรคเพื่อไทยยกทั้งจังหวัดทุกเสียงมีความหมาย เพราะทุกคะแนนจะถูกคำนวณว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนเสียงเท่าไร
“ถ้าอยากให้คนที่บอกมึงมาไล่ดูสิออกไป วันที่ 24 มี.ค. เลือกพรรคเพื่อไทยทั้งประเทศครับ” นายพงศ์เทพ ระบุ
นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ระบุว่า เพิ่งขึ้นปราศรัยใหญ่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตนเห็นกฎหมายในยุคไม่ปกติ มาตรา 44 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เราจะทำการสำรวจกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราจะทำการลอว์กิโยตีน เราจะเปลี่ยนแปลงยกเลิกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมโดยขอให้ประชาชนส่งข้อมูลมาที่พรรคเพื่อไทย อีกทั้ง ตนเห็นกฎหมายตัวหนึ่งต้องออกให้ได้คือกฎหมายปฏิรูปกองทัพ ไม่ใช่แค่ในยุคปฏิวัติเท่านั้นก็มีความไม่เป็นธรรมมาก เหตุที่พูดถึงเรื่องการปฏิรูปกองทัพโดยเฉพาะการเกณฑ์ทหารควรยกเลิกออกไป การเป็นทหารจำเป็นแต่ควรให้ใช้วิธีการสมัครใจ
นายชัยเกษม ระบุว่า ประเทศไทยมีนายพลมากที่สุดในโลก มีนายพลที่ไม่มีงาน ทำให้เอาภาษีอากรไปใช้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นต้องมีการแก้ไข ขณะเดียวกันทหารมีการถือครองที่ดินจำนวนมาก ที่ดินเหล่านี้ควรใช้ประโยชน์ในราชการไม่ควรอยู่ในความดูแลของทหารมาทำสนามกอล์ฟ ไม่ใช่ให้ทหารใช้ นี่คือความไม่เป็นธรรมในกฎหมาย แต่ต้องค่อยทำค่อยไปไม่ใช่พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลแล้วทำทันทีอาจถูกปฏิวัติได้ ขณะเดียวกัน ทหารบางคนเกษียณมีบ้านพักรับรอง บางคนไม่ได้ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองดังนั้นควรแก้ไขกฎหมายให้ได้รับความเป็นธรรม ส่วนองค์กรอิสระต้องได้รับการแก้ไขให้มีความเป็นธรรม หากไม่ได้รับความเป็นธรรมบ้านเมืองจะเสียหาย
“ผมอยากเรียกร้องกระบวนการยุติธรรมทางศาล เรื่องสองมาตรฐาน ท่านไม่ได้ชี้แจงให้ประชาชนทราบเท่าที่ควรบางเรื่องราษฎรหนังสือพิมพ์วิจารณ์บอกละเมิดอำนาจศาล ดังนั้นกระบวนการยุติธรรม องค์กรต่างๆควรได้รับการวิจารณ์ได้ ดังนั้นควรมีกรรมการอิสระมาตรวจดูหน่วยงานเหล่านี้ทำถูกต้องหรือไม่ เพื่อเป็นกระจกให้หน่วยงานเหล่านี้” นายชัยเกษม ระบุ
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทยและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขึ้นปราศรัยพร้อมทั้งเต้นตามจังหวะเพลงพรรคเพื่อไทยหัวใจเพื่อเธอ โดยระบุว่า ตนพร้อมเจอพล.อ.ประยุทธ์ ในสภา และปราศรัยโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้จัดตั้งรัฐบาลเมื่อปี 2551 ขณะเดียวกันต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะไม่เป็นประชาธิปไตย รอบหน้าถ้าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯจะรู้นรกมีจริง เพราะได้รัฐบาลเสียงข้างน้อย พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ได้อย่างไร ซึ่งตนไม่ได้อภิปรายมานาน ตนจะตั้งกระทู้ตลอด ดังนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์เปลี่ยนใจ
“คสช.ออกไป พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แพ้เลือกตั้ง แน่จริงเอ็งเลือกข้างไหนอย่ามาแทงกั๊ก” ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม และแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า พรรคมียุทธศาสตร์ไทย 6 ด้าน "ไทยทำ ไทยทันสมัย ไทยเท่าเทียม ไทยเชื่อมไทย ไทยเชื่อมโลก ไทยยั่งยืน" ร้อยเรียงทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกัน โดยจะลำดับนโยบายให้เป็นการเพิ่มพลังการผลิตในประเทศ สร้างแบรนด์ไทยแลนด์ให้เข้มแข็ง ทั้งนี้ประเทศไทยต้องเป็นของคนไทยทุกคน และเศรษฐกิจต้องเดินไปอย่างยั่งยืน โดยพรรคเพื่อไทยจะมากอบกู้เศรษฐกิจให้ประเทศ
"ประเทศไทยต้องเป็นของคนไทยทุกคน และเศรษฐกิจต้องเดินไปอย่างยั่งยืน" ชัชชาติระบุ
นายชัชชาติ ระบุว่า สภาพเศรษฐกิจไทยปัจจุบัน เข้า 3 ลักษณะ แข็งบนอ่อนล่าง คนมีหนี้สินครัวเรือนมากขึ้น คนจนที่ลงทะเบียนบัตรรัฐสวัสดิการ14.5 ล้านคน การจัดระเบียบคนหาเช้ากินค่ำ เช่นประมง ขายหายเร่ ทำให้หารายได้ยากขึ้น ลักษณะแข็งนอกอ่อนใน ที่ผ่านมาไทยเน้นการส่งออก 70 % แต่การบริโภคภายในประเทศอ่อนแอ การลงทุนในประเทศจากกลุ่มคนที่เป็นฟันเฟืองเล็กน้อยสะดุด และ3ลักษณะ แต่ก่อนแข็ง หมายถึง เศรษฐกิจแย่ลง ซึ่งการแก้ปัญหา ต้องเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ รัฐบาลมีหน้าที่ ลดอุปสรรคต่างๆ ลงทุนอุตสาหกรรมที่มีอนาคต
หญิงหน่อยชวนเลือกตั้งเอาชนะ 250 ส.ว.
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หมดเวลารถถังได้เวลาพรรคเพื่อไทยมากอบกู้เศรษฐกิจ ได้เวลาพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะขจัดอุปสรรคการขวางกั้นการทำมาหากินจากกฎหมาย พรรคเพื่อไทยจะลดภาษีอย่างชาญฉลาดพร้อมเพิ่มฐานภาษี แต่จะไม่ขูดรีดภาษีกับประชาชน หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เกษตรกรพักชำระหนี้ 3 ปี และภายใน 6 เดือนราคาสินค้าเกษตรจะขึ้นอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อไปนี้เกษตรกรต้องกำหนดราคาสินค้าได้ ประเทศไทยต้องเป็นศูนย์กลางผลิตอาหารให้คนทั้งโลก และใน 2 ปีจะเพิ่มนักท่องเที่ยว 50 ล้านคน ให้เม็ดเงินแตะถึง 3 ล้านล้านบาท และจะมีกองทุนคนเปลี่ยนงานเพื่อไม่ให้เป็นคนตกงาน
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะคืนอากาศที่ดีให้คนกรุงเทพฯใน 3 ปีจะไม่มีฝุ่นพิษ พร้อมยืนยันใน 4 ปีจะเปลี่ยนรถเป็นรถไฟฟ้า แทนที่จะซื้อรถถังจากจีนจะเปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้าแทน
“เขายึดอำนาจประชาชนไป4 ปี 9 เดือน ใช้งบฯไป 14.4 ล้านล้านบาท โปรดฟังอีกครั้งมากกว่าทุกรัฐบาลในอดีต แต่ทำไมไม่ทำให้เศรษฐกิจพี่น้องมีเงินในกระเป๋ากลับทำให้ประชาชนยากจนลง เขาบอกว่าคนจนจะหมดไปเมื่อ2ปีก่อน ตอนนี้คนจนกันหมดแล้ว พรรคเพื่อไทยจะทำให้รวยกระจายจนกระจุก บัตรคนจนไม่อยากแจก อยากแจกบัตรคนรวย หมดเวลารถถังแล้ว ได้เวลาพรรคเพื่อไทยฟื้นเศรษฐกิจ” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเริ่มต้นที่ศูนย์ แต่เขาเริ่มต้นที่ส.ว. 250 เสียง วันที่ 24 มี.ค. เป็นวันออกจากความทุกข์ พรรคการเมืองมีมากมายพี่น้องไม่ต้องสับสนมีกี่พรรคก็แล้วแต่ แต่มีสองทางเลือก พวกหนึ่งจะเอานายกฯคนปัจจุบันอยู่ต่อ อีกพวกคือพรรคเพื่อไทยไม่ให้อยู่ต่อ แล้ว อย่าเลือกเพราะรักหรือเกลียดใคร แต่กุญแจดอกเดียวออกจากความทุกข์ คือ พรรคเพื่อไทย ถ้าเลือกน้อยก็อยู่กับลุงต่อไป ต้องเลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลายท่วม ส.ว. 250 คน พรรคเพื่อไทยจะนำความสงบมาให้กับประเทศ ถ้าพรรคได้ชนะที่ 1 แต่คะแนนไม่ท้วมท้นก็จะแพ้ ส.ว. 250 คน ดังนั้นต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลาย