นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยในเดือน ม.ค. 2563 ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำ การผลิตภาคอุตสาหกรรม เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวชะลอลงจากเดือนก่อน
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนตามอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานเป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันในประเทศที่ต่ำในปีก่อน ด้านบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้า ส่วนบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายเกินดุลสุทธิทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน
ทั้งนี้ในปี 2563 เศษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากขณะนี้แม้การระบาดในจีนจะเริ่มชะลอตัวลง แต่ยังพบว่าภายนอกประเทศจีน โดยเฉพาะเกาหลีใต้และยุโรป มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยตรง
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้งที่เริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น แม้จะดีกว่าปี 2559 แต่ยังต้องติดตามใกล้ชิดเช่นกันเนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำฝนสะสมยังน้อย และน้ำกักเก็บในเขื่อนอยู่ในภาวะวิกฤติ
"เศรษฐกิจไทยทั้งปีจะขยายตัวต่ำกว่าร้อยละ 1 หรือไม่ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของของระบาดของไวรัสโควิด-19 และหากไตรมาสที่ 1 และ 2 เศรษฐกิจติดลบ ก็มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ต้องรอ กนง. พิจารณาในเดืิอน มี.ค.นี้" นายดอน กล่าว
นายดอน ระบุว่า ยังคงต้องติดตามสถานการณ์และประเมินตัวเลขต่างๆใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศรวมเฉพาะในเดือน ก.พ. 2563 ลดลงแล้วกว่าร้อยละ 40-45 ทำให้ประเมินว่าในไตรมาส 1/2563 เศรษฐกิจไทยจะดิ่งสุดของปี อย่างไรก็ตามมองว่า ยังมีปัจจัยบวก คือ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ภาครัฐต้องเร่งประกาศการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากประเมินว่าภาคการบริโภคจะขยายตัวต่ำกว่าปีที่ผ่านมา หรือน้อยกว่าร้อยละ 4
