วันที่ 24 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (23 ก.ย. 2565) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความต้องการเก้าอี้ ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ขอนแก่นจะกวาดหมดหรือไม่ หลังจัดงานเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 8 เขต จากทั้งหมด 11 เขต ว่า เราเปิดตัวผู้สมัคร ก็ต้องมั่นใจว่าผู้สมัครสู้ได้ 

ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกระเบียบเรื่องหาเสียงจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ หัวหน้าพรรค ภท. ระบุว่า ไม่หรอก เพราะภูมิใจไทยก็ลงพื้นที่มาตลอดอยู่แล้ว อย่างเลือกตั้งปี 2562 ก็ลงพื้นที่เต็มที่ ซึ่งก็ศึกษาอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ส่วนใหญ่ กฎเกณฑ์ของ กกต.ช่วงใกล้เลือกตั้งก็ต้องระวัง อาทิ สัญญาว่าจะให้หรือนำของไปแจก ซึ่งในไลน์พรรคภูมิใจไทยมีการอธิบายกันตลอดว่าอะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ do and don't พร้อมเชื่อว่า ส.ส.ทุกคนก็มีความมั่นใจ อย่างวันนี้เรามาเปิดตัวผู้สมัครที่ขอนแก่นก็เพื่อให้เกิดความสบายใจทุกฝ่ายอย่างงานจัดก็มาสลับมาจัดงานก่อน ส่วนป้ายหาเสียงที่ติดตามทางก็ต้องทำให้มันถูกต้อง แต่อย่าลืมว่ามันเกิดขึ้นมาก่อนที่จะมีกติกา 180 วันซึ่งทำมานานแล้ว

ส่วนกรณีที่ภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาจถูกมองว่ามีความได้เปรียบ เพราะมีหมวกสองใบคือเป็นรัฐมนตรีด้วย อนุทิน กล่าวว่า เราได้เปรียบเพราะเราทำงานก่อนคนอื่น ทำงานหนักกว่าคนอื่นซึ่งก็ต้องได้เปรียบสิครับ ไม่ใช่ได้เปรียบเพราะไปเอาเปรียบคนอื่น เราทำไปแล้วด้วยความขยันขันแข็ง พรรคภูมิใจไทย ทำทุกอย่างและรัฐมนตรีของพรรคก็ทำงานอย่างหนักมาตลอด สิ่งเหล่านี้เป็นเปรียบที่พึงจะได้ แต่ไม่ใช่นำอำนาจที่มีอยู่ไปกีดกันคนอื่นอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งเราเอางานหนักเข้าทำก็ต้องได้เปรียบ

ส่วนกรณีที่ตั้งเป้าเป็นพรรคแกนนำหลัก คือ ประกาศตัวพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีเลยใช่หรือไม่ อนุทิน ถามกับสื่อว่า แล้วพรรคภูมิใจไทยเสนอใครเป็นนายกฯละ ซึ่งเราก็ต้องมีการขับเคลื่อนที่ต้องทำให้ประชาชน มั่นใจไว้วางใจว่าจะทำงานที่เป็นประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งการจะไปจุดนั้นได้ถ้าเรามีจำนวน ส.ส. เยอะมันก็จะผักดันทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เราก็จะไม่มีอุปสรรคอะไร เราก็จะไปเป็นเหยื่อของเกมการเมืองจากใคร ส่วนพรรคจะเป็นแกนนำหลักจะต้องเกิน 100 ที่นั่งหรือไม่ ขอรอให้ถึงวันนั้นก่อน ซึ่งเราจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ซึ่งหากเราได้รับการสนุนสนับสนุนจากผู้คนบนถนนการเมืองด้วยกัน แต่กลับมีการบล็อกหรือเตะตัดแข้งตัดขา ผลเสียก็เกิดต่อประชาชนไม่ได้เกิดผลเสียต่อสมาชิกพรรคภูมิใจไทยเลยแม้แต่น้อย พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีความอ่อนไหวอะไรเลย 

"มันทำให้การเมืองไม่เข้มแข็ง ซึ่งบางคนก็โอเคตัดสินใจทำอย่างนี้กับพรรคภูมิใจไทย ก็พอไม่ต้องมีการพึ่งพาอะไรกันแล้ว ไม่ต้องมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว ไม่มีการที่พิจารณากฎหมายสำคัญแล้ว ก็เลยปฏิบัติกับเราแบบนี้ แต่ไม่เป็นไร เราก็ถือว่าประชาชนคือหลักใช้ของเราไม่มีปัญหา"

เมื่อถามย้ำว่า ดูเหมือนตนจะเจ็บฝังใจที่เคยร่วมงานกันมา อนุทิน กล่าวว่า เจ็บที่ประชาชนเสียประโยชน์ มันไม่ได้เจ็บเพราะตัวเองเสียประโยชน์อะไรสิ่งเท่าเราทำไม่ใช่ประโยชน์ของตัวเอง แต่คนที่มาเสียโอกาสคือประชาชน 

"อย่างที่ผมเคยพูด บอกว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ต้องการมีเรื่องอะไรกับใคร อย่ามาทำพรรคภูมิใจไทยเลย พรรคภูมิใจไทยทำงานรับใช้ประชาชนอย่างเดียว อย่ามาทุบตีพรรคภูมิใจไทยซึ่งไม่มีประโยชน์ อย่างตอนพรรคเพื่อไทยมาค้านกฎหมายกัญชา พรรคภูมิใจไทยก็ไม่ว่าอะไร เราก็เล่นแบบมีสปิริทนักกีฬา อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์เราก็พร้อมสนับสนุน"

เมื่อถามว่า ขอนแก่นเป็นอีกหนึ่งจังหวัดหลักของพรรคเพื่อไทย คิดว่าจะแย่งพื้นที่มาได้หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า มันไม่มี ใครไปจังหวัดหลักของใคร มันอยู่ที่ทำงานให้กับประชาชนแค่นั้น บุรีรัมย์ก็ไม่ใช่จังหวัดหลักของภูมิใจไทย ลอง ส.ส. บุรีรัมย์ขี้เกียจเมื่อไหร่ก็เรียบร้อยเมื่อนั้น มันอยู่ที่ความทุ่มเทของ ส.ส. คนที่มาและและอยากไปรับใช้ประชาชนโดยสภาก็ต้องทำตัวให้ประชาชนถูกใจมากที่สุด

เมื่อถามย้ำว่า ประเมินสนามการเมือง ขอนแก่นมีความยากง่ายกี่เปอร์เซ็นต์ อนุทิน กล่าวว่า ตนขอไม่ประเมินเพราะว่าเรานำเสนอบุคลากรของคนที่จะไปเป็นตัวแทนประชาชนชาวขอนแก่น เราดูถึงความทุ่มเทของเค้า ดูถึงความเข้าใจในพื้นที่และความอยากที่จะไปรับใช้ประชาชนซึ่งเราก็จะสนับสนุนให้เขาได้รับชัยชนะ ส่วนอีก 3 เขตที่ยังไม่ได้เปิดตัวคาดว่าจะทยอยขึ้นมา ซึ่งพรรคก็จะให้ เอกราช ช่างเหลา เป็นคนประสานงานซึ่งคิดว่ากำลังประสานงานในเขตพื้นที่ที่เหลืออยู่

เมื่อถามย้ำว่า มีการตั้งข้อสังเกตพรรคภูมิใจไทยมีท่าทีถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่เคยโต้ตอบกับพรรคเพื่อไทย ตรงนั้นจะมีสัญญาณการจับมือทางการเมืองในอนาคตหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ก็นั่นน่ะสิ พร้อมแจ้งว่าไม่ใช่ถ้อยทีถ้อยอาศัย เราก็เป็นของเราแบบนี้ ซึ่งเราไม่เคยยุ่งอะไรกับใคร และถ้าพรรคอื่นทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนเราก็พร้อมให้การสนับสนุน แต่เวลาที่พรรคภูมิใจไทยจะทำประโยชน์ให้กับประชาชนทำไมพรรคอันอื่นถึงต้องมาขัดแข้งขัดขาพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่ประโยชน์เกิดขึ้นกับประชาชน  พร้อมระบุว่า แม้กฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา ยังไม่สามารถรับการพิจารณาในสภาได้ แต่ผู้ที่เข้าถึงหรือใช้ประโยชน์จากกัญชา ถ้าอยู่ภายใต้กรอบของประกาศกระทรวงสาธารณสุขก็ยังคงทำได้โดยไม่มีข้อจำกัดหรือข้อห้ามหรือช่วงเวลาใดทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า อย่างนี้แสดงว่าไม่ไว้ใจพรรคร่วมรัฐบาลตั้งแต่แรก อนุทิน กล่าวว่า มันอาจจะเป็นสัญชาตญาณของหัวหน้าพรรค

เมื่อถามย้ำว่า การจับมือกับเพื่อไทยแสดงว่ามีแนวโน้มจัดตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ อนุทิน ระบุว่า รอผลของการเลือกตั้งแสดงออกมา เราเคยถูกกดดันมาตลอดเวลา ว่าคนนี้จะเอาเราไหม คนนั้นจะเอาเราไหมก็รู้สึกอึดอัด ฉะนั้นต้องโฟกัสตำแหน่งของเรา ซึ่งมุ่งหมายของเราคือปักหมุด

เมื่อถามย้ำว่า พูดได้เลยหรือไม่ว่าวันนี้ขอเป็นคนเลือกบ้าง อนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ตนพูดมาตั้งแต่เมื่อวาน

เมื่อถามว่า ชาวขอนแก่นที่มาชูป้ายจองตัวเป็นนายกฯหนูไว้แล้ว อนุทิน ยิ้มพร้อมระบุว่า สมพรปาก

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บ้างหรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า ตน ได้พบกับนายกประยุทธ์ 2 ครั้ง ซึ่งไปกราบขอพรในวันเกิดท่าน ดูท่านก็มีความสบายใจ แต่เราก็ก้าวล่วงในเรื่องคำพิพากษาไม่ได้ แต่ในฐานะเป็นรัฐบาลร่วมกันเราก็ต้องให้กำลังใจ ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความเข้มแข็งอยู่แล้ว ส่วนหลัง 30 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จะได้กลับมาหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่เราก็ให้กำลังใจท่าน เพราะเป็นหัวหน้ารัฐบาลชุดนี้ ซึ่งเราก็อยากให้ท่านทำงานอย่างเต็มที่