ไม่พบผลการค้นหา
เมื่อเดือนก่อน แอฟริกาใต้ได้ออกมาประกาศว่า พวกเขากำลังพบกับการระบาดของเชื้อโอไมครอน ที่มีอัตราการแพร่กระจายอย่างเป็นวงกว้างเท่าที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน อย่างไรก็ดี กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ในแอฟริกาใต้ได้ออกมาเปิดเผยล่าสุดว่า ประเทศของพวกเขาได้เลยช่วงการระบาดของโอไมครอนที่หนักที่สุดมาแล้ว

ประเทศแอฟริกาใต้ “ได้ผ่านจุดสูงสุดของการระบาดเชื้อโอไมครอนแล้วตอนนี้ จากการลดลงของยอดการติดเชื้อในประชากรบริเวณจุดศูนย์กลางของการระบาดอย่างเคาเต็ง” ริดห์วาน ซูลิมาน นักวิจัยอาวุโสจากสภาวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งแอฟริกาใต้ (CSIR) เปิดเผยกับสำนักข่าว CNN

แอฟริกาใต้พ้นการระบาดสูงสุดของโอไมครอนแล้ว

ตัวเลขการติดเชื้อใหม่ในแอฟริกาใต้ตกลงไปกว่า 20.8 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงวันที่ 18 ธันวามคมที่ผ่านมา ตามรายงานของสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติ (NICD) ของแอฟริกาใต้ เช่นเดียวกันกับในหลายพื้นที่ของแอฟริกาใต้ที่เกิดการระบาดของโอไมครอนเอง ก็มีตัวเลขการติดเชื้อที่ลดลงแล้วตั้งแต่ 23 ไปจนถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในบางพื้นที่ของการระบาดหนักช่วงแรก

นอกจากนี้แล้ว พญ.แองเจลีก โคเอตซี ประธานสมาคมการแพทย์แห่งแอฟริกาใต้ และแพทย์คนแรกๆ ที่ออกมาเปิดเผยว่าเชื้อโอไมครอนไม่ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเกิดอาการป่วยหนักนั้นยังได้ระบุว่า เส้นกราฟการติดเชื้อของแอฟริกาใต้ได้ “เลยเส้นโค้ง” สูงสุดมาแล้ว และตัวเลขการติดเชื้อในปัจจุบันนั้น “ต่ำลงไปมาก”

ซูลิมานยังเปิดเผยอีกว่า หากเปรียบเทียบระลอกการระบาดของแอฟริกาใต้ในครั้งที่สี่นี้ ซึ่งเป็นระลอกการระบาดของโอไมครอนจะพบว่า มันมี “คลื่นของการระบาดที่สูงกว่า” ซึ่ง “สั้นกว่าคลื่นการระบาดก่อนหน้านี้อย่างมาก” เมื่อเปรียบเทียบกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ โดยเฉพาะเชื้อเดลตา

ยืนยันโอไมครอนลดลงจริง และอาการไม่รุนแรง

การตรวจพบผู้ติดเชื้อในแอฟริกายังคงสูงอยู่ที่ 29.8 เปอร์เซ็นต์ แต่ซูลิมานระบุว่า ตัวเลขจากสถิติโดยรวมของแอฟริกาใต้ทำให้พวกเขาพบว่า “อัตราการติดเชื้อที่ลดต่ำลงไปเรื่อยๆ เป็นตัวเลขจริง และไม่ได้เกิดจากการจำลองการตรวจขึ้น” 

นอกจากนี้ ถึงตัวเลขการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศแอฟริกาใต้จะมีอัตราที่ “เพิ่มขึ้นมาบ้างเล็กน้อย” แต่ตัวเลขดังกล่าวจากระลอกการระบาดของโอไมครอน “ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด” เมื่อเทียบกับระลอกการระบาดของเชื้อเดลตา ชาเบอร์ มาห์ดี นักวิทยาศาสตร์ด้านพัฒนาวัคซีนระบุกับ CNN

ก่อนหน้านี้ แอฟริกาใต้ได้ตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อโอไมครอนเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และในช่วงเวลาเพียงแค่ 1 เดือน หลังจากที่แอฟริกาใต้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แบบทวีคูณ ตัวเลขการติดเชื้อโอไมครอนในตอนนี้กลับเลยจุดสูงสุดมาแล้ว

ทั่วโลกจับตาโอไมครอนต่อ

ผู้นำหลายประเทศยังคงจับตาการแพร่ระบาดของโอไมครอน อาทิ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาแถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ประชาชนสหรัฐฯ ยังไม่ควรจะต้องวิตกกังวลกับเชื้อโอไมครอนมากจนเกินไป ก่อนเปรียบเทียบว่าระลอกการระบาดของโอไมครอนในปีนี้ แตกต่างจากระลอกกการระบาดในเดือนมีนาคม ค.ศ.2020 อยู่อย่างมาก ทั้งนี้ สหรัฐฯ จะยังคงไม่มีการประกาศมาตรกาารล็อกดาวน์ หรือการปิดโรงเรียนแม้แต่อย่างใด ถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อโอไมครอนเพิ่มมากขึ้นจนเป็นการติดเชื้อใหม่กว่า 73 เปอร์เซ็นต์ก็ตาม

นอกจากนี้แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ระบุย้ำว่า วัคซีนยังคงเป็นคำตอบของปัญหาการแพร่ระบาดจากเชื้อโอไมครอนในระลอกใหม่นี้ อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ ได้มีผู้ฉีดวัคซีนครบโดสไปแล้วกว่า 200 ล้านคน และอาจมีการฉีดวัคซีนกระตุ้นสำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไปก่อนหน้านี้ “เราเตรียมตัวแล้ว เรารู้เกี่ยวกับมัน(โอไมครอน)มากขึ้น” ไบเดนกล่าวกับประชาชน

อย่างไรก็ดี ในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ที่กำลังมีการเฉลิมฉลอง องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาย้ำเตือนว่า ขอให้ผู้นำประเทศและประชาชนพิจารณายกเลิกการเฉลิมฉลองตามหน้าเทศกาล โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่นี้ออกไปก่อนเพื่อลดอัตราการติดเชื้อโอไมครอน ในขณะที่หลายประเทศได้ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานปีใหม่แล้ว ทั้งนี้ ไทยยังคงไม่มีการพิจารณายกเลิกงานปีใหม่ตามหัวเมืองทั่วประเทศแต่อย่างใด

ที่มา:

https://edition.cnn.com/2021/12/22/africa/south-africa-omicron-peak-intl/index.html?fbclid=IwAR2UN1lQP7ZkW6IeAQxB7bp99T6bJp75KAcmcAxzx1qthpiM_VEqpUT6eNE

https://www.washingtonpost.com/politics/2021/12/21/biden-omicron-speech-covid-testing-hospitals/