ไม่พบผลการค้นหา
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุการปลดล็อกพรรคการเมือง เชื่อ คสช.พิจารณาได้ แต่หากมีผลกระทบเกิดขึ้นกับโรดแมปการเลือกตั้งต้องรับผิดชอบ อย่าเอามาใช้เป็นเกมชิงความได้เปรียบทางการเมือง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ คสช. เตรียมคลายล็อก ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้บางส่วน แต่ยังไม่ปลดล็อก ว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์คงไม่ไปวิงวอนขอร้องว่า คสช. ควรคลายล็อกอะไรบ้าง หรือ ควรปลดล็อก เมื่อไหร่ อย่างไร เพราะ คสช. และรัฐบาล รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า หลังกฎหมายมีผลบังคับใช้ให้บ้านเมืองเดินหน้าเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ใครควรทำอะไรแค่ไหนอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการเดินหน้าพาบ้านเมืองเข้าสู่บรรยากาศประชาธิปไตย คสช. และ รัฐบาล ยังเอาเรื่องคลายล็อกปลดล็อก มาเป็นเกมเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมืองระวังจะได้ไม่คุ้มเสีย

"เมื่อ คสช. และ รัฐบาลตัดสินใจจะคลายล็อกแบบไหน จะปลดล็อกเมื่อไหร่ แล้วก่อให้เกิดผลกระทบต่อการเลือกตั้ง กระทบต่อโรดแม็ป คสช. และ รัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้น จะไปโทษคนอื่นอีกไม่ได้" นายองอาจ กล่าวว่า

กรณีหลายฝ่ายกังวลว่า หลังจากการคลายล็อกทางการเมืองแล้ว อาจจะมีสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้นนั้น นายองอาจ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณอะไรที่แสดงให้เห็นว่าจะมีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นแต่อย่างใด ในเมื่อทุกภาคส่วนของสังคมไทยล้วนแล้วแต่อยากให้ประเทศไทยเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โพลเกือบทุกสำนักที่ออกมา ก็ชี้ให้เห็นว่าประชาชนประสงค์จะเข้าสู่คูหากาบัตรลงคะแนน ไม่มีใครอยากสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้น ขณะที่พรรคการเมือง นักการเมือง ก็เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่การทำงานตามระบอบประชาธิปไตย คงไม่มีนักการเมืองคนไหนอยากไปสร้างความขัดแย้ง ก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้น แต่ถ้ามีใครคิดจะทำให้เกิดความไม่สงบเกิดขึ้นในบ้านเมืองเชื่อว่าผู้คนในสังคมคงไม่ยอมรับแต่อย่างใด

ส่วนที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะเลขาธิการ คสช. กำชับกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ให้ติดตามสถานการณ์ที่เริ่มจะคลายล็อกทางการเมืองตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไปนั้น  น่าจะเป็นการกำชับ หน่วยงาน ตามสายงาน ตามอำนาจหน้าที่เท่านั้น คงไม่ได้พบเหตุอะไรเป็นพิเศษที่จะก่อให้เกิดปัญหา เชื่อว่าสถานการณ์บ้านเมืองสามารถเดินหน้าเข้าสู่บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยได้ เพียงแต่ทุกฝ่ายทำตามอำนาจหน้าที่ของตนอย่างแท้จริง ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร โดยเฉพาะผู้มีอำนาจต้องเป็นแบบอย่างของการใช้อำนาจอย่างตรงไปตรงมาก็จะมีส่วนช่วยทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปตามครรลองที่ถูกต้องได้อย่างแน่นอน 

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการปลดล็อค ทางการเมืองว่า คงไม่ต้องไปร้องขออ้อนวอนเพื่อให้ คสช ดำเนินการ จะคิดทำอย่างไรย่อมเป็นสิทธิของ คสช. เพราะมีอำนาจเต็มที่ เราเชื่อรัฐธรรมนูญ เชื่อกฎหมาย ที่กำหนดขั้นตอนต่างๆไว้ เพราะถ้าเชื่อคำพูดของผู้มีอำนาจมันเลื่อนลอย วันนี้พูดอีกอย่าง พรุ่งนี้พูดอีกอย่าง แต่ท้ายที่สุดในวันข้างหน้าหากเกิดอะไรขึ้น คสช ก็ต้องรับผิดชอบ 

"วันนี้พรรคใช้เวลาอยู่กับปัญหาของประชาชนช่วยเหลือประชาชน เพื่อนำไปกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาในวันข้างหน้า เพราะประชาชนคาดหวังจะพึ่งพาใครในยามนี้ยากเย็นเหลือเกิน เมื่อก่อนมีสภา ปัญหาต่างๆหยิบยกไปพูดไปแก้ปัญหาในสภา ในคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ แต่ยามนี้ช่องทางของประชาชนเหลือน้อยเต็มที ระยะเวลาเท่าไหร่ที่แลกมากับความเป็นประชาธิปไตยเชื่อว่าทุกคนรอได้" นายราเมศ กล่าว