ไม่พบผลการค้นหา
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำชายไทยพกยาสมุนไพรคู่กายติดตัวไว้ใช้เบื้องต้น กรณีทราบผลการเกณฑ์ทหาร ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อาจมีอาการเป็นลม หน้ามืด ตาลาย เข่าอ่อน ถึงขั้นหมดสติได้

นพ. เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ชายไทยที่มีสัญชาติไทยอายุ 21 ปีบริบูรณ์ ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารประจำการ ชายไทยจำนวนมากไม่ต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร เพราะผ่านการเรียนรักษาดินแดนครบสามปี ส่วนผู้ที่ไม่ได้เรียนรักษาดินแดนหรือเรียนไม่ครบตามหลักสูตรกำหนด หรือไม่มีข้อยกเว้นอย่างอื่นตามที่กฎหมายกำหนด ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจเลือก ผู้มาเข้ารับการตรวจเลือกหากไม่สามารถใช้สิทธิ์ผ่อนผัน จะถูกกรรมการตรวจเลือก แบ่งออกเป็น 4 จำพวก ได้แก่ 

1. คนที่มีร่างกายสมบูรณ์ดี 

2. ไม่สมบูรณ์ดีแต่ไม่ถึงกับทุพพลภาพ       

3. คนที่ไม่แข็งแรงพอที่จะรับราชการทหารในขณะนั้นได้ เพราะป่วยและไม่สามารถรักษาให้หายได้ใน 30 วัน 

4. พิการ ทุพพลภาพ หรือมีโรคที่ไม่สามารถรับราชการทหารได้ 

ที่ผ่านมาช่วงการเกณฑ์ทหารจะเป็นช่วงที่ลุ้นระทึกของผู้ถูกเกณฑ์ทหารและครอบครัว มีทั้งภาวะดีใจหรือเสียใจแบบกระทันหัน รวมถึงบางพื้นที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพได้ ที่พบบ่อย ๆ คือ อาการเป็นลม หมดเรียวหมดแรง เข่าอ่อน ทรุดตัวล้มลงแบบกระทันหัน หรือบางรายถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้ 

ขอแนะนำผู้ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าว พกยาสมุนไพรคู่กาย ติดตัวไว้ใช้เบื้องต้นเมื่อมีอาการไม่คาดคิด ได้แก่ 

1. ยาหอมเทพจิตร บรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ ตาลาย บำรุงหัวใจ 

2. ยาหม่องสมุนไพร แก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการนั่งหรือยืนเป็นระยะเวลานาน เกิดภาวะเกร็งตึงของกล้าเนื้อ 

3. ยาดมสมุนไพร แก้วิงเวียนศีรษะ ทำให้สดชื่น ช่วยให้ผ่อนคลาย 

4. ยาอมแก้ไอ ช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการ ทำให้ชุ่มคอ เนื่องจากอากาศแปรปรวน ร้อนบ้าง ฝนตกบ้าง อากาศเย็นชื้นบ้าง อาจมีอาการไอได้

นอกจากจะพกยาสมุนไพรไว้ใช้เบื้องต้นแล้ว ผู้เข้ารับการตรวจเลือกเกณฑ์ทหารกองประจำการ อย่าลืมพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6 - 8 ชั่วโมง พกน้ำสะอาดดื่มชดเชยให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย รวมถึงการเลือกดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรดับร้อน เช่น น้ำบัวบก น้ำมะนาว และน้ำตรีผลา