ในระหว่างการแข่งขันเซ็ทที่สอง รอบชิงชนะเลิศของศึกแกรนด์สแลม รายการยูเอสโอเพ่น ที่นครนิวยอร์ก ระหว่างเซเรนา วิลเลียมส์ และ นาโอมิ โอซากา เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) วิลเลียมส์ ถูก คาร์ลอส มารอส กรรมการบนเก้าอี้ข้างสนาม เบรคเกมเสิร์ฟเพราะเห็นว่าโค้ชของวิลเลียมส์ทำผิดกฎด้วยการส่งสัญญาณสื่อสารกับเธอระหว่างเกม ทำให้วิลเลียมส์หันไปเถียงกับกรรมการว่าเธอไม่มีทางโกงเพื่อชนะ และขอยอมแพ้ดีกว่าถ้าต้องโกง
แต่หลังจากที่กรรมการไม่กลับคำตัดสิน ทำให้วิลเลียมส์หัวเสียอีกครั้ง จนถึงขั้นปาไม้เทนนิสลงกับพื้นจนไม้เทนนิสหักงอ ซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดกฎครั้งที่สอง เธอจึงถูกลงโทษด้วยการปรับแต้ม ยิ่งทำให้วิลเลียมส์หัวเสียมากขึ้นไปอีก โดยเธอยังคงโต้เถียงกับกรรมการและต้องการให้กรรมการกล่าวขอโทษเธอ จนถึงขั้นที่วิลเลียมส์เรียกกรรมการว่าเป็นหัวขโมยที่แย่งชิงคะแนนไปจากเธอ ซึ่งทำให้เธอถูกกรรมการสั่งลงโทษปรับหนึ่งเกมทันที
การแข่งขันดำเนินต่อไปจนจบ แต่เซเรนา วิลเลียมส์ ที่ไม่สารถควบคุมอารมณ์ได้ ก็พ่ายแพ้ให้กับโอซากาไป 4-6 เกม ทำให้โอซากากลายเป็นนักเทนนิสญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลม ในรายการยูเอสโอเพน ได้สำเร็จ
ภายหลังจบการแข่งขัน เซเรนา วิลเลียมส์ แสดงน้ำใจนักกีฬาด้วยการสวมกอด นาโอมิ โอซากา เพื่อแสดงความยินดี แต่ปฏิเสธที่จะจับมือกับผู้ตัดสิน ขณะที่ผู้ชมส่วนมากไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของกรรมการและส่งเสียงโห่ใส่กรรมการระหว่างที่เขาเดินออกจากสนามหลังการแข่งขันจบลง