ไม่พบผลการค้นหา
เกาหลีเหนือได้ประกาศการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของแผนการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นของ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ

การทดสอบดังกล่าวถูกตรวจพบเมื่อวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) โดยเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ซึ่งได้สั่งให้ผู้อยู่อาศัยบนเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนืออพยพในเวลาสั้นๆ ทั้งนี้ สื่อทางการของเกาหลีเหนือยืนยันการยิงขีปนาวุธ ฮวาซอง-18 ในเช้าวันศุกร์ (14 เม.ย.) ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้ได้รับการดูแลโดยคิม ที่เดินทางมาดูการยิงขีปนาวุธพร้อมกับลูกสาวของเขา

“ขีปนาวุธข้ามทวีปชนิดใหม่ถูกยิงเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นวิธีการสำคัญของกองกำลังทางยุทธศาสตร์” สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงาน โดยอธิบายการทดสอบในครั้งนี้ว่าเป็น “ความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์”

สำนักข่าว KCNA ยังรายงานอ้างถึงคำพูดของคิมว่า ฮวาซอง-18 จะเร่งพัฒนาวิถีการตอบโต้ทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว และสนับสนุนกลยุทธ์ทางทหารเชิงรุก ที่มอบคำสัญญาว่าจะรักษา “นิวเคลียร์เพื่ออาวุธนิวเคลียร์ และการเผชิญหน้าอย่างสุดกำลัง เพื่อการเผชิญหน้าอย่างสุดกำลัง” กับคู่แข่ง

“ระบบอาวุธฮวาซอง-18 ที่ดำเนินการโดยกองกำลังทางยุทธศาสตร์ของประเทศ จะมีภารกิจและบทบาทในการปกป้อง (เกาหลีเหนือ) ยับยั้งการรุกราน และรักษาความปลอดภัยของประเทศ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทรงพลังที่สุด” KCNA รายงาน ทั้งนี้ ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งนั้นปลอดภัยกว่าในการใช้งาน บังคับทิศทางได้ง่ายกว่า และติดตั้งได้เร็วกว่ารุ่นต่างๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงเหลว ซึ่งจำเป็นต้องบรรจุที่จุดปล่อย และเป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนาอาวุธระยะ 5 ปีที่คิมประกาศในปี 2564

แม้ว่าสหประชาชาติจะสั่งห้ามการทดสอบขีปนาวุธ แต่เกาหลีเหนือยังคงดำเนินการยิงอยู่หลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความพยายามในการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารของตัวเอง โดยปีที่แล้ว มีการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ รวมถึงเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแข็งแรงขับสูง และในเดือน ก.พ. เกาหลีเหนือได้ทดสอบอาวุธที่อาจเป็น ICBM ใหม่ในขบวนพาเหรดยามค่ำคืนอันหรูหราในกรุงเปียงยาง

“นี่เป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือ แต่ไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง” อันกิต แพนดา ผู้เชี่ยวชาญจาก Carnegie Endowment for International Peace กล่าว “เนื่องจากขีปนาวุธเหล่านี้ถูกเติมเชื้อเพลิงในเวลาที่ผลิตและพร้อมใช้งานตามความจำเป็น พวกมันจะถูกนำไปใช้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในภาวะวิกฤตหรือความขัดแย้ง ซึ่งทำให้เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เสียเวลาอันมีค่าที่อาจเป็นประโยชน์ในการตามล่าอย่างเอาเป็นเอาตาย และทำลายขีปนาวุธดังกล่าว”

เกาหลีเหนือระบุว่าการซ้อมรบทางทหารขนาดใหญ่ระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ เป็นตัวกระตุ้นให้พวกเขาต้องทดสอบขีปนาวุธในครั้งล่าสุด โดยเกาหลีเหนืออ้างว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นการซ้อมรับการรุกราน ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ และเกาหลีใต้กล่าวว่าการซ้อมรบของพวกเขา เป็นไปเพื่อการป้องกันโดยธรรมชาติ และเป็นผลมาจากภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ

การทดสอบขีปนาวุธฮวาซอง-18 มีขึ้น 2 วันก่อนที่ประเทศจะเฉลิมฉลองวันเกิดของ คิมอิลซุง ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นหนึ่งในวันหยุดที่สำคัญที่สุดของประเทศ ทั้งนี้ ฮวาซอง-18 ซึ่ง KCNA อธิบายว่าเป็นขีปนาวุธ 3 ระยะ ถูกยิงจากพื้นที่ใกล้กับกรุงเปียงยาง และร่อนไปเป็นระยะทางประมาณ 1,000 กิโลเมตร ก่อนตกลงสู่น่านน้ำทางตะวันออกของเกาหลีเหนือ อย่างไรก็ดี เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธประมาณ 30 ลูกในปีนี้เพียงปีเดียวจาก 12 การทดสอบการยิงที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ คิมยังสั่งให้ทหารของเขาซ้อมรบอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับ “สงครามจริง”


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/4/14/north-korea-tests-first-ever-solid-fuel-icbm-hwasong-18?fbclid=IwAR3g170eVB8QFJAYbDSedjHKJcRCxesNjlYdANhw2qqK4pKwBYSyUURyQ30