วันที่ 5 ต.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เดชถาวรเจริญ สส.ภูเก็ต พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามด้วยวาจาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่าโครงสร้างพื้นฐานในการบริการและรองรับประชาชนทั้งไทยและต่างประเทศในจังหวัดภูเก็ต ยังมีความล่าช้าและไม่ทั่วถึง 

เช่น ความล่าช้าในโครงการทางพิเศษขึ้นเขาป่าตอง โครงการระบบขนส่งมวลชน ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง รวมถึงโครงการทางรถไฟสายสุราษฏร์ธานี พังงา (ท่านุ่น) โครงการท่าเรือสำราญ โครงการทางพิเศษ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ และโครงการสนามบินนานาชาติอันดามัน ซึ่งล้วนยังไม่แล้วเสร็จ

ว่าที่ร้อยตรี สมชาติ ตั้งคำถามว่ากระทรวงคมนาคมมีโครงการเร่งรัดการก่อสร้าง เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน จ.ภูเก็ต มารองรับแล้วให้บริการประชาชนและนักท่องเที่ยวหรือไม่ และจะแล้วเสร็จเมื่อใด ในกรณีที่ภาคเอกชนไม่ยื่นข้อเสนอดำเนินการก่อสร้าง กระทรวงคมนาคมจะสามารถใช้งบประมาณของภาครัฐในการดำเนินการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานได้หรือไม่อย่างไร

โดนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมาย มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และได้ลงพื้นที่รับฟังความเห็นหลายครั้ง

สำหรับโครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ระยะที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการทำ EIA คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปี 2572 ส่วนการพัฒนาท่าอากาศยานอันดามัน กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ และคาดว่าจะเสร็จในปี 2570 รวมถึงโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการ คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วง ธ.ค. ปี 2571 และโครงการทางพิเศษ สายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเปิดให้บริการได้ภายในช่วง เม.ย. ปี 2572 โครงการระบบขนส่งมวลชน ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต-ห้าแยกฉลอง คาดว่าเปิดให้บริการได้ภายใน ธ.ค. ปี 2574

ส่วนที่มาของงบประมาณในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ การใช้งบประมาณภาครัฐ โดยกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ประเภทงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ และประเภทการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมกำลังตอบกระทู้อยู่ ได้เข้าสู่กระบวนการซ้อมหนีไฟแบบเสมือนจริง โดย พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้เร่งให้สมาชิกในห้องประชุมรีบทยอยตามเจ้าหน้าที่ลงไปทางบันไดหนีไฟ ชั้น 1 ทำให้ สส.จำนวนมากออกไปจากห้องประชุม

จากนั้น มนพร ได้ถามขึ้นมาว่า "ผู้ถามกระทู้ยังอยู่ในห้องประชุมหรือไม่" และขอให้ประธานฯ แจ้งให้ผู้ชมการประชุมทางบ้านทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะให้มีการตอบกระทู้ต่อไปตามปกติ เพราะผู้ถามกระทู้ก็ยังอยู่ในห้องประชุมเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการซ้อมหนีไฟครั้งนี้ มี สส.ให้ความร่วมมือปฎิบัติตามเจ้าหน้าที่ โดยเมื่อไปถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ตั้งป้ายให้สมาชิกแต่ละพรรคเข้าแถว แบ่งเป็นพรรค และสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อตรวจสอบว่าใครบ้างที่มาถึงจุดรวมพล โดยจะมีจอแสดงผลเช็คยอด แยกเป็นพรรค และเจ้าหน้าที่ของรัฐสภา 

นอกจากนั้น ยังมีการจำลองว่าหากได้รับบาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้จะต้องปฐมพยาบาลอย่างไรบ้าง และมีรถกอล์ฟของรัฐสภานำผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงอาคารรัฐสภา โดยมีเจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงและกู้ภัยเพลิงบางโพมาฝึกซ้อม