นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวพาดพิงและตั้งคำถามถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่าพูดแต่เรื่องเดิมมาอวดอ้างเป็นผลงาน ล้มเหลวในการดูและไม่ได้พัฒนาพื้นที่ภาคใต้อย่างแท้จริงว่าความจริงตนไม่อยากจะตอบโต้นายจาตุรนต์ เพราะเป็นการเล่นการเมืองแบบโต้กันไปมา แต่สิ่งที่กล่าวมานั้นไม่เป็นความจริง ขอยืนยันว่าประชาธิปัตย์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนไม่ว่าภาคไหน เราปฏิบัติเท่าเทียมกันโดยเฉพาะภาคใต้ นายจาตุรนต์คงลืมไปว่าถนนสี่เลนในภาคใต้เกิดขึ้นเพราะใคร และยังมีการสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้งพัฒนาด้านการท่องเที่ยวสามารถทำให้ภาคใต้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้นๆของโลก และที่สำคัญคือราคาพืชผลทางการเกษตรในยุคที่พรรคเป็นรัฐบาลราคายางพารา ไม่มีรัฐบาลไหนทำได้สูงเท่าเรา
“ที่สำคัญกว่านั้นเราไม่ได้มุ่งพัฒนาแต่พื้นที่ภาคใต้ แต่เราดูแลพี่น้องประชาชนทั่วทุกภาคอย่างเท่าเทียม เราไม่เคยพูดว่าถ้าไม่เลือกเราแล้วจะไม่ได้งบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ เหมือนอดีตหัวหน้าพรรคบางพรรคเคยพูดไว้”
นายเชาว์กล่าวด้วยว่า การที่นายจาตุรนต์ กล่าวหาว่า นายชวนหยิบยกแต่เรื่องเล็กๆ มาพูดและไม่เคยพูดถึงนโยบายที่มีผลมากๆต่อประเทศ นั้นไม่เป็นความจริง เพราะสิ่งที่นายชวนหยิบยกมาทั้งเรื่องนมโรงเรียน เบี้ยผู้สูงอายุ หรือ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ก็ยังมีอยู่ในปัจจุบัน ตนขอถามนายจาตุรนต์ว่า กล้าพูดหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีประโยชน์กับประชาชนหรืออย่างไร
ส่วนที่นายจาตุรนต์กล่าวว่าเราจะผลักดันนโยบายได้ต้องไปร่วมรัฐบาลกับคสช.เท่านั้น นายเชาว์กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคไม่เคยแถลงจุดยืนว่าจะไปร่วมกับพรรคการเมืองใด และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ย้ำเสมอว่าเราจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ฉะนั้นต้องถามว่าใครอยากจะมาร่วมกับเราบ้าง แต่ไม่ใช่ใครก็ได้มาร่วมเพื่อให้เป็นรัฐบาล แต่ต้องก็มีนโยบายและอุดมการณ์ไปในแนวทางเดียวกันคือ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต และร่วมกันผลักดันนโยบาย แก้จน สร้างคน สร้างชาติ โดยเฉพาะประกันรายได้เกษตรกร
“ผมขอให้นายจาตุรนต์เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ อย่าได้กล่าวพาดพิงโจมตีกันไปมา เพราะเป็นการเล่นการเมืองแบบเก่าๆ ควรพูดเรื่องนโยบายว่าเราจะทำอะไรให้กับประชาชนเหมือนกับที่พรรคเรากำลังทำอยู่จะดีกว่า” นายเชาว์กล่าว
ก่อนหน้านี้ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดพัทลุงและจังหวัดตรัง ไม่มีการเอ่ยชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ระบุเพียงว่า จากการรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาที่ชาวภาคใต้เผชิญมาตลอดระยะเวลา 4-5 ปี พบว่าไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ เพราะได้รับความเดือดร้อนจากการบริหารงานที่ผิดพลาดและไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในพื้นที่ ทั้งที่ภาคใต้มีทรัพยากรและศักยภาพในการพัฒนาตัวเองรวมถึงประเทศชาติโดยรวมได้ ประชาชนภาคใต้ต้องการเปลี่ยนแปลง ทั้งในแง่การเมืองและเศรษฐกิจ จึงเป็นโอกาสให้พรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่พรรคการเมืองเก่าแก่ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่มานานจะได้รับโอกาส
นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ได้ระบุว่า ประชาชนสนใจการแก้ปัญหาราคายางพารา, การประมงและการท่องเที่ยว ของพรรคการเมืองว่าเป็นอย่างไรและมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน จึงเชิญชวนคนใต้พิจารณาว่าพรรคการเมืองที่เคยนิยมนั้น มีศักยภาพที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะหากคะแนนเสียงไม่พอ ก็ต้องไปร่วมกับพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. ซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมปัญหา และหากคะแนนเสียงกระจายไปหลายพรรค ก็จะทำให้พรรคเก่าแก่ได้ที่นั่ง ส.ส.เช่นเดิม ไม่อาจออกจากวงจรเก่าๆ ได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: