วันที่ 12 เม.ย. 2566 แฟนเพจเฟซบุ๊กลุงตู่ตูน ซึ่งสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โพสต์คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ประชาชนถึงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรลุงตู่” โดยประชาชนต่างแสดงความเชื่อมั่นต่อโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยระบุว่า ได้เงินจริง ใช้ได้จริงกับชีวิตประจำวัน ซึ่งขณะนี้แต่ละพรรคการเมืองก็มีการเสนอนโยบายในลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ต้องมาดูว่าอันไหนที่ใช้ง่ายกว่า เพราะต้องยอมรับว่าคนไทยยังมีพื้นฐานที่ไม่เท่ากัน หากนำสวัสดิการตรงนี้เข้าระบบดิจิทัลอาจจะยุ่งยากกับคนบางส่วน ขณะที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนใหญ่เคยใช้ และคุ้นชินกันมาแล้ว
“1 หมื่นบาท เรายังไม่รู้จักกัน ยังไม่รู้ว่าเป็นยังไ แต่บัตรลุงตู่คือ ออกมาแล้ว ใช้ได้ดี ใช้ได้จริง จำนวนเงินแต่ละเดือนอาจจะไม่เยอะ แต่ก็ใช้ซื้อสิ่งของที่จำเป็นได้ ขณะที่เงิน 1 หมื่นบาทยังไม่รู้ว่าจะออกมายังไง” ประชาชนรายหนึ่งกล่าว
ขณะเดียวกัน ประชาชนบางรายยังให้ความเห็นอีกว่า ที่ผ่านมาได้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรลุงตู่กันมานานแล้ว มีที่มาที่ไป มาจากไหน ใครเป็นคนให้ และใช้ง่ายกว่าหากจะนำไปเข้าระบบดิจิทัล ซึ่งกังวลว่า จะไม่สะดวกสำหรับผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในต่างจังหวัด
“ถ้าสรุปตอนนี้ ผมขอเลือกใช้เหมือนเดิม บัตรลุงตู่ ที่ใช้ได้แน่นอน ชัวร์กว่า …. เงิน 1 หมื่นบาท ยังไม่รู้จะใช้ยังไง แต่เงินลุงตู่ได้ใช้แน่นอน” ประชาชนอีกรายกว่า
นอกจากนี้ แฟนเพจเฟซบุ๊กลุงตู่ตูน ยังได้ระบุข้อความด้วยว่า บัตรลุงตู่ ของจริงใช้ดี ไม่ใช่เงินลอยๆ ยังไม่รู้วิธีใช้ ช่วยเหลือหว่านแห ระบบเศรษฐกิจพัง บัตรลุงตู่ ช่วยถูกจุด การันตีไม่ส่งผลเสียต่อวินัยการเงินการคลัง เพราะทำมาแล้ว ทำได้ดี แล้วจะทำต่อไป ถ้า บัตรลุงตู่ ไม่ดีจริง พรรคการเมือง ที่ไม่เห็นด้วย เหน็บแนมว่าเป็นการหยอดน้ำต้ม กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ คงประกาศยกเลิกไปแล้ว แต่กลับใช้ประชานิยมสุดโต่ง เกทับบลัฟแหลก หวังคะแนนเสียง โดยไม่สนใจวินัยการเงินการคลังของประเทศ ที่ นายกฯลุงตู่ ยึดถือแนวทาง บัตรลุงตู่ ก็เพื่อดูแลประคับประคอง คนฐานราก ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ที่เชื่อว่าวันหนึ่งคนเหล่านี้จะสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง แต่การแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท กลับเลือกวิธีหว่านแห ฉาบฉวย ใช้ตัวเลขหวือหวา แจกแล้วบังคับใช้ให้หมดทันที ต่อไป คนฐานราก ก็จะถูกทิ้งไว้กลางทาง ซึ่งสุดท้ายปลายทางก็คือการยกเลิก บัตรลุงตู่ แต่ก็ไม่กล้าหาญพอที่จะประกาศออกมาตรงๆ