ไม่พบผลการค้นหา
'พล.อ.ประวิตร' สั่งตั้งคณะทำงานติดตามแก้ปัญหาวิกฤตจราจร จากการก่อสร้างรถไฟฟ้า จี้ กทม. ตำรวจ และกรมการขนส่งทางบก ลงมาช่วยดูแลความเดือดร้อนประชาชนจริงจัง

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากปัญหาวิกฤติการจราจรใน กทม. ที่สะสมต่อเนื่อง หลังจากวางแนวกั้นถนนการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ถนนลาดพร้าว) มีผลให้การเดินรถในถนนลาดพร้าวขาออก เคลื่อนตัวได้ช้าสะสมต่อเนื่อง กระทบเชื่อมโยงถึง ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนพระรามเก้า ต่อเนื่องถึงถนนอื่นๆ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันทั่วที่ผ่านมา

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานติดตามผล การบูรณาการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการจราจร โดยมีคณะทำงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับ กทม.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งสำรวจ ติดตามและแก้ปัญหาระดับพื้นที่เป็นการเร่งด่วน  พร้อมทั้งดำเนินการ สำรวจความเชื่อมโยงและกำหนดแนวทางบริหารจัดการ การจราจรในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ต่อเนื่องกันไป 

ทั้งนี้ ได้กำชับเป็นนโยบาย ให้มีการอำนวยความสะดวก เส้นทางที่มีการเชื่อมโยงในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อการระบายรถ และขอให้มีการปรับและควบคุมไฟจราจรให้เหมาะสม เพื่อเฉลี่ยรถในเส้นทางต่างๆ ไม่ให้ติดค้างสะสมยาวนาน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ อำนวยความสะดวกและควบคุมตลอดเวลาโดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน 

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ กทม.เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำและประสานกับผู้รับเหมาออกแบบและบริษัทที่ก่อสร้าง หารือทางออกร่วมกันอย่างต่อเนื่องให้การก่อสร้างกระทบกับการจราจรน้อยที่สุด โดยเฉพาะการปรับแนวกั้นถนนให้มีพื้นผิวการจราจรให้ได้มากที่สุด และขอความร่วมมือปรับผิวจราจรระหว่างก่อสร้าง ที่ชำรุด ไม่ราบเรียบในทุกเส้นทางควบคู่กันไป เพื่อมิให้รถต้องชะลอตัวและเกิดอุบัติเหตุบ่อยดังที่เป็นอยู่ 

พร้อมกันนี้ ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกรมการขนส่งทางบก ให้ความสำคัญในการกวดขันวินัยจราจร และกำหนดมาตรการเข้มกับกลุ่มที่ละเลยกฎหมาย โดยเฉพาะ กลุ่มรถสาธารณะ ประเภทรถโดยสารร่วมและรถแท๊กซี่ ที่มีพฤติกรรมขับแซงปาดหน้าและจอดกีดขวางการจราจร ตามข้อมูลที่ประชาชนจำนวนมากแจ้ง ทั้งนี้ ให้คณะทำงานดังกล่าว มีการประเมินผลทุกสัปดาห์และปรับแผนการปฏิบัติให้สามารถบริหารจัดการจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมต่อเนื่องกันไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :