ต่างประเทศ
'องค์การห้ามอาวุธเคมี' ร่วมสอบสวนคดีลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซีย
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า วันนี้ (19 มี.ค.) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมีจะเดินทางถึงกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเก็บตัวอย่างยาพิษที่ใช้ในการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซีย 'เซอร์เก สกริปัล' วัย 66 ปี และลูกสาว 'ยูเลีย สกริปัล' วัย 33 ปี
เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ของกระทรวงว่า เจ้าหน้าที่จากองค์การห้ามอาวุเคมี หรือ OPCW จะเข้ามาเก็บตัวอย่างสารพิษที่ใช้ในการลอบสังหารอดีตสายลับรัสเซีย หลังจากนั้นจะส่งให้กับห้องทดลองขององค์กรเพื่อทดสอบสารพิษต่อไป โดยคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบสารพิษอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวกับผู้สนับสนุนเมื่อวันวานนี้หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 4 ว่า มันเป็นเรื่องที่เหลวไหลและไม่น่าเชื่อถือที่จะใครบางคนกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้ลอบวางยาพิษ ก่อนจะมีการเลือกตั้ง (18 มี.ค.) และก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียในปีนี้
"พวกเราได้ทำลายอาวุธเคมีไปหมดแล้วและพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้" ปูตินกล่าว
ด้านบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษกล่าวในรายการของ แอนดรูว์ มาร์ทางช่องบีบีซีว่า อังกฤษมีหลักฐานว่าภายใน 10 ปีที่ผ่านมานี้ รัสเซียกำลังคิดค้นสารพิษประเภททำลายเซลล์ประสาทโดยมีวัตถุประสงค์ใช้สำหรับการลอบสังหาร โดยรัสเซียสร้างและเก็บสะสมสารพิษโนวิช็อกด้วย
อีกทั้ง จากฐานข้อมูลที่กองทัพอังกฤษค้นคว้า ยังพบว่า สารพิษโนวิช็อกตัวนี้ถูกพัฒนาโดยสหภาพโซเวียต และออกฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาท
ขณะที่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศจะลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียและขับไล่เจ้าหน้าที่ทางการทูตของรัสเซียออกจากประเทศ เนื่องจากมีหลักฐานทำให้เชื่อว่า รัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารสกริปัลและลูกสาว ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ในอังกฤษ ต่อมาในวันที่เสาร์ที่ผ่านมา (17 มี.ค. ) ทางการรัสเซียได้ประกาศขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของอังกฤษ 23 รายออกจากรัสเซียเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
