ไม่พบผลการค้นหา
เผยผลสำรวจผู้ต้องขังคดียาเสพติด 379 ราย พบส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานจบต่ำกว่าปริญญาตรี กว่าร้อยละ 57 บอกว่าอาจจะต้องกลับมาติดคุกซ้ำเพราะหนีไม่พ้นสังคมเดิมๆ เพราะไม่มีโอกาสกลับตัว หางานอื่นทำ

2 มิ.ย. 2561 ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดผลโพล ผู้ต้องขังคดียาเสพติด คิดอย่างไรต่อการติดคุกซ้ำ โดยสำรวจจากผู้ต้องขังคดียาเสพติดจำนวนทั้งสิ้น 379 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา

จำนวนมากหรือร้อยละ 39.4 ไม่ได้เรียนหนังสือ หรือได้เรียนก็ไม่เกินประถมศึกษา ในขณะที่ ร้อยละ 32.7 จบมัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 26.6 จบ มัธยมศึกษาตอนปลายถึง อนุปริญญา มีเพียงร้อยละ 1.3 ที่จบปริญญาตรีหรือสูงกว่าในการสำรวจครั้งนี้

ที่น่าเป็นห่วงคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 เป็นคนวัยทำงานสร้างฐานะ คืออายุระหว่าง 25 – 55 ปีแต่กลับมาอยู่ในคุกเพราะคดียาเสพติด ในขณะที่ร้อยละ 16.0 เป็น เยาวชน อายุระหว่าง 18 – 24 ปี และร้อยละ 2.1 เป็นคนสูงวัย อายุ 55 ปีขึ้นไป

ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ จำนวนมากหรือร้อยละ 42.3 เคยติดคุกมาแล้วมีประวัติติดคุกซ้ำ ในขณะที่ร้อยละ 57.7 ติดเป็นครั้งแรก และเมื่อถามว่า ถ้าออกจากคุกไป จะมีโอกาสกลับมาติดคุกซ้ำอีกหรือไม่ พบว่า จำนวนมากหรือร้อยละ 46.1 ของคนที่เคยติดคุกซ้ำมาก่อน ระบุมีโอกาสจะกลับมาติดอีก เพราะ เจอแต่กลุ่มคนเดิมๆ ที่เสพที่ขาย สังคมไม่ให้โอกาสกลับตัว ทำผิดแล้วผิดเลยไม่ให้โอกาสแก้ไข ไม่มีงานทำ ไม่มีเงิน งานอย่างอื่นได้เงินน้อยไม่พอใช้และเพราะความจำเป็น ในขณะที่ร้อยละ 53.9 ของคนเคยติดคุกซ้ำ ระบุไม่กลับมาแล้ว เพราะติดคุกลำบาก รักครอบครัว มีงานที่สุจริตรออยู่ ได้กำลังใจจากคนรอบข้าง ไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอีก

อย่างไรก็ตาม แม้แต่ กลุ่มคนที่เพิ่งติดครั้งแรกจำนวนมากหรือร้อยละ 31.9 ระบุมีโอกาสจะติดซ้ำเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มเยาวชนคือกลุ่มที่ระบุมีโอกาสจะกลับมาติดคุกซ้ำมากที่สุด คือร้อยละ 45.2 ในขณะที่คนวัยทำงานสร้างฐานะร้อยละ 34.3 และคนสูงวัยร้อยละ 25.0 ตามลำดับ

ดร.นพดลระบุว่า ที่น่าพิจารณาคือ เครือข่ายบุคคลรอบข้างใกล้ตัวเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก่อนมาติดคุก โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.9 ระบุมี คนรู้จักทั่วไป เป็นทั้งคนเสพ คนครอบครอง และคนขาย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.9 ระบุ คนพักอาศัยใกล้บ้านในชุมชนเป็นทั้งคน เสพ คนครอบครอง และคนขาย ยิ่งไปกว่านั้น ร้อยละ 14.3 ระบุมีคนในครอบครัว เป็นทั้งคนเสพ คนครอบครอง และ คนขาย ตามลำดับ

ที่น่าสนใจ คือ ส่วนใหญ่ของผู้ต้องขังคดียาเสพติดหรือร้อยละ 91.6 ขับมอเตอร์ไซค์ได้ รองลงมาคือร้อยละ 64.2 ขับรถยนต์ได้ ร้อยละ 30.2 พิมพ์ดีดได้คล่อง ร้อยละ 27.6 ทำอาหารได้ ร้อยละ 26.1 ซ่อมเครื่องยนต์ได้ ร้อยละ 19.9 ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ ร้อยละ 15.3 เป็นช่างต่างๆ ได้ เช่น ช่างไม้ ช่างเฟอร์นิเจอร์ ช่างเหล็ก เป็นต้น ร้อยละ 10.7 พูดภาษาต่างประเทศได้ เช่น อังกฤษ พม่า เขมร จีน มาลายู เป็นต้น และร้อยละ 3.3 รู้เรื่องเทคโนโลยี ซ่อมคอมพิวเตอร์ได้ ซ่อมโทรศัพท์ได้ ตามลำดับ