ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับ 8 ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น และตกหนักบางพื้นที่ ขอประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสมจนทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ส่วมภาคใต้ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 8 "คลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ และฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย" โดยในช่วงวันที่ 6-9 ส.ค. 2561 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออกให้ระวังคลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง

ส่วนกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


มท.1 สั่งการทุกจังหวัดพร้อมรับสถานการณ์ดินถล่ม - คลื่นลมแรง

ด้าน นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศว่าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมจะเกิดคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ และฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย โดยที่ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่งทั่วทุกภาคของประเทศ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม อีกทั้งบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตรขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงที่จะเกิดขึ้น พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ดำเนินการตามแนวทางการเตรียมความพร้อม และแนวทางเผชิญเหตุ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยสู่ประชาชนในทุกช่องทาง, ตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ขึ้นในส่วนอำนวยการของศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด , กำหนดจุดพื้นที่ปลอดภัย ให้มีความพร้อมในการอพยพประชาชน และในพื้นที่ติดชายฝั่งทะเลให้วางมาตรการร่วมกับหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลด้านการคมนาคมทางทะเลและการท่องเที่ยว ประกาศห้ามการเดินเรือออกจากหรือเข้ามายังฝั่ง