น้ำซุปกลิ่นหอมหวน ไก่เนื้อเเน่น ข้าวมันเม็ดละเอียด ผักชีสีเขียวสดใส ช่วยเสริมให้ภาพในจานกลมกล่อม นอกจากความอร่อยระหว่างรับประทาน หูของคุณยังได้สัมผัสกับบทเพลงสากลอันแสนไพเราะจากเหล่าศิลปินดัง เช่น Elvis Presley , Carpenters , Johnny T. Angel , Bee Gees
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่ร้านข้าวมันไก่โกนวย ที่เสิร์ฟความอร่อยมากว่า 30 ปี โดยมี 'อำนวย เชาว์เฟื่องกิจ' วัย 72 ปี นั่งรถไปจ่ายตลาด หุงข้าว สับไก่ ต้มน้ำซุป ผสมน้ำจิ้มและยืนหยัดที่จะขายในราคา 10 บาทไว้ตลอดกาล จนกลายเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจ
"ผมตายนั่นแหละ ถึงเลิกขายราคานี้" เขายืนยันพร้อมส่งเสียงหัวเราะ
ข้าวมันไก่โกนวยตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลเลิดสิน ถนนสีลม กรุงเทพมหานคร เขาต่อยอดพัฒนาสูตรมาจากน้องสาว หลังจากตกงานเมื่อปี พ.ศ. 2530 ตั้งราคาขายในราคา 10 บาทมานับแต่นั้น โดยเดิมทีขายส้มตำร่วมด้วยแต่เนื่องจากสภาพสังคมและการเติบโตของร้านส้มตำทั่วเมือง ทำให้สุดท้ายเลิกราไป
“ข้าวมันไก่มันขายง่าย จานละ 10 บาท สมัยก่อนผมขายได้วันละ 1,500-1,600 บาท เหลือกำไร 800 ขายตั้งแต่ 6 โมง 10 โมงก็หมดแล้ว”
ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์อำนวยจะเดินทางไปจ่ายตลาด และช่วยกันกับภรรยาคู่ชีวิตหุงข้าว ต้มไก่ ทำน้ำจิ้ม ตามสูตรที่พัฒนาขึ้นมาเอง ก่อนออกจากบ้านพักย่านโชคชัย 4 มาเปิดร้านตั้งแต่ 6 โมงเช้า
“ใช้ข้าวหอมมะลิแท้ ใส่เนย น้ำมันหอย กระเทียมเจียว ใช้ไก่พันธุ์เนื้อ ต้มในเวลาที่เหมาะสม น้ำจิ้มต้องผสมและตวงให้แม่นยำ ไม่งั้นไม่อร่อย ผมเรียนรู้สูตรมาจากน้องสาวและปรับปรุงจนถูกปากชาวบ้าน”
เหตุผลที่เขายืนยันในราคา 10 บาทมากว่าสามสิบปีเพราะยึดในคำมั่นสัญญา รวมถึงต้องการให้ทุกคนได้สัมผัสกับข้าวมันไก่
“ผมสัญญาและประกาศกับทุกๆ คนแล้วว่าจะไม่ขึ้นราคา ไม่ทำตามสัญญาแล้วไม่สบายใจ ใช้วิธีปรับเรื่องสัดส่วนปริมาณ เพิ่มราคาที่หลากหลาย 10 20 30 40 50 บาทก็ได้ โลกนี้ไม่มีใครกล้าขายแบบนี้แล้ว หนังสติ๊กถุงขึ้นราคาแค่ 5 บาท มันพากันขึ้นจานละ 5 บาทเลย แต่ผมไม่ทำอย่างนั้น”
ลูกค้าของโกนวยมีทุกเพศทุกวัย ไล่ตั้งแต่เด็กนักเรียนวัยประถม พนักงานออฟฟิศ กระทั่งคนวัยเกษียณ ซึ่งนอกเหนือจากราคา อีกหนึ่งไฮไลต์ของโกนวย คือการนำเครื่องเสียงคาราโอเกะออกมาเปิดก่อนหยิบไมค์ร้องเพลงให้ลูกค้าฟังทุกวันศุกร์ โดยเขาให้เหตุผลว่าทำไปเพื่อบริหารสมองและจิตใจ
“ผมกลัวเป็นโรคความจำเสื่อม ร้องเพลงมันช่วยให้เราได้ทบทวนเนื้อหา บริหารสมองและพัฒนาความสุข ผมมีแฟนคลับ ส่วนใหญ่เป็นคนแก่นั่งฟังกันมานาน บางคนมาช่วยร้องจนตายไปแล้วก็มี ผมชอบเพลงของ Elvis Presley , Carpenters , Johnny T. Angel , Bee Gees”
รักษาคุณภาพ สะอาด ซื่อสัตย์ และบริการด้วยใจ ทั้งหมดคือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ร้านยืนระยะมาได้อย่างยาวนาน โดยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
“ของผมอร่อย ถูก บันเทิงลิ้น สะอาด ผมเป็นกุ๊กนะครับ บางคนนุ่งผ้าถุงขายส้มตำ ชิมเสร็จ เช็ดผ้าถุง แล้วตำต่อ ถามว่าคนกินเขาจะคิดอย่างไร ผมรักษาความสะอาดและคุณภาพเสมอ ไม่ใช่ว่าคราวนี้มากินแบบนี้ คราวหน้าเป็นอีกแบบ คุณภาพต้องคงที่ถึงขายได้ ไม่งั้นเจ๊งไปนานแล้ว”
ที่ผ่านมาแม้จะมีผู้สนใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์หลายครั้ง แต่อำนวยประกาศชัดว่า “ผมไม่ขาย ยินดีให้ฟรี” เพียงแต่ห้ามนำชื่อไปแอบอ้างการันตีคุณภาพหรือความอร่อย ปัจจุบันเขามียอดขายวันละ 4,000-5,000 บาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่สั่งซื้อในราคา 40-50 บาท ขณะที่ราคา 10 บาท มักเป็นกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ที่อยากทดลอง คนขับและกระเป๋ารถเมล์ที่มักซื้อเพราะความสะดวกในการรับประทานยามปฏิบัติหน้าที่
“จนกว่าจะตาย ตายเมื่อไหร่เลิก ถ้าไม่เห็นผมขายแสดงว่าผมตายแล้ว” กุ๊กหนุ่มใหญ่ในชุดเชฟสีขาวสะอาดตากล่าว
คุณภาพและความชอบด้านอาหารของโกนวยได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณแม่ที่ทำข้าวแกงขาย ขณะที่ทักษะการร้องเพลงของเขา เกิดจากการมีโอกาสได้เป็นนักร้องประจำผับบาร์ในหลายจังหวัด สมัยสงครามเวียดนาม ซึ่งเต็มไปด้วยเหล่าทหารอเมริกันหรือที่คนไทยมักเรียกว่าพวก จี.ไอ. (Government-Issued)
“อายุ 20 กว่า หัดเล่นกีตาร์ ช่วงนั้นทหารจี.ไอ. เข้ามาเยอะ ผับบาร์กำลังหานักร้องนักดนตรี ผมสมัครเข้าไป เล่นให้พวกฝรั่งมันดู ไม่รู้มันฟังรู้เรื่องหรือเปล่า เพราะมัวแต่เมาและคั่วหญิง ได้เงิน 80 บาทต่อคืน เล่นอยู่แถวเพชรบุรีตัดใหม่ และตระเวนไปหลายจังหวัด”
ความสงบของสงครามกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เขาได้สัมผัสกับการทำอาหาร สร้างความร่ำรวยกับภัตตาคารที่ตัวเองสร้างขึ้นมา บนถนนสุรวงศ์ ย่านบางรัก กระทั่งเจออุปสรรคทางภาษี ตัดสินใจหันหัวเรือมาพัฒนาร้านข้าวมันไก่ 10 บาทจนกลายเป็นตำนานอาหารรสเลิศบนถนนสีลม
“ขายดีมาก แต่ทำได้ 3 ปี เจอพี่สรรพากรมานับโต๊ะ คุยกันไม่รู้เรื่อง ถูกปรับเงินไปบานเลย ผมตัดสินใจเลิกขายและย้ายมาอยู่แถวสีลม ขายข้าวมันไก่อย่างที่เห็น” เขาย้อนอดีตให้ฟังพร้อมยิ้มหวานส่งท้าย