พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจ กรณีนำกำลังบุกจับนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ 'อดีตพระพุทธอิสระ' เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ว่า เรื่องนี้มีผลกระทบต่อสังคม เพราะหลายคนไม่เข้าใจ ตนในฐานะหัวหน้ารัฐบาลได้ขอโทษไปแล้ว จึงขอให้เห็นใจทั้งสองฝ่าย เพราะเจ้าหน้าที่พยายามทำหน้าที่ แต่อาจจะมากเกินไป ยืนยันมีมาตรการลงโทษอยู่แล้ว ทั้งตำรวจและทหารมี พ.ร.บ.เกี่ยวกับวินัย หากเกี่ยวข้องคดีอาญาต้องถูกดำเนินการด้วย
หัวหน้า คสช. ยืนยันว่า "ทุกอย่างมีขั้นตอนการดำเนินการทั้งหมด ขออย่าทำให้เกิดความสับสนและถือว่าโชคดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บและสูญเสีย"
ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่าไม่สนิทกับนายสุวิทย์อย่างที่มีการนำภาพมาบืดเบือนในโซเซียล ตนก็เคารพพระทุกรูป ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไปหลายวัด ไปสร้างวัดสร้างพระ ทุกคนก็ไป เพราะการเมืองไม่เป็นแบบนี้ ดังนั้นอย่าเอาเรื่องเก่ามาพัวพัน ส่วนภาพที่มี 4 อดีต ผู้บัญชาการทหารบก ร่วมพิธีเททองหล่อ พระเกตุมาลา พระนาคปรก ปกเกล้า ปกแผ่นดินที่วัดอ้อน้อย เมื่อปี 2557 ไปตามคำเชิญหวังให้พระขลัง
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้คนไทยยืดหลักศาสนาเป็นหลักสำคัญ ยืดหลักธรรม 'อริยสัจ 4' (ทุกข์ สมุทัย นิโรธมรรค) เพื่อเป็นหนทางดับทุกข์ หาความสงบให้เจอ รัฐบาลหามาตลอด หามา 4 ปี แล้ว
ส่วนกรณี พล.ต.นพ. เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกจากตำแหน่ง พล.อ. ประยุทธ์ ระบุว่า "ไม่ใช่หน้าที่" ตนไม่ทำงานภายใต้แรงกดดันของใคร ต้องยืดความถูกต้องเป็นหลัก ผิดว่าไปตามผิด
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุว่า ตนได้ขอโทษประชาชนไปแล้ว ซึ่งการขอโทษ เป็นเพราะมีประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจ ทั้งนี้ การปฎิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดว่าในพื้นที่วัดอ้อน้อย มีการ์ดของอดีตพระพุทธะอิสระหรือไม่ ตามที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติชี้แจง แต่เรื่องนี้ถือว่าจบแล้ว พร้อมยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล และ คสช. เพราะเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ภาพถ่ายที่เคยร่วมทำบุญกับอดีตพระพุทธอิสระเป็นภาพเหตุการณ์นานแล้ว และไม่เกี่ยวว่าจะมีความสนิทสนมกัน เพิ่งรู้จักตอนไปทำบุญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง