นายเชาวน์ นกอยู่ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รับแจ้งว่ามีน้ำเน่าเสียไหลลงทะเลจำนวนมาก ที่ชายหาดบางเสร่หมู่ 2 ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนทำให้น้ำทะเลตลอดแนวชายหาด กลายเป็นสีดำกระจายในวงกว้างประมาณ 100 เมตร ส่งกลิ่นเน่าเหม็น และยังมีสัตว์ทะเลลอยตายจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนไม่กล้าลงเล่นน้ำเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผิวหนัง
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้ประสานสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (สสภ. 13 ชลบุรี) และองค์การจัดการน้ำเสีย (อจน.) สาขาเทศบาลตำบลบางเสร่ เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ผลสรุปว่าบ่อพักน้ำเสียทะลักไหลลงชายหาดบางเสร่นั้น น้ำเสียไม่ได้มาจากระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลตำบลบางเสร่ ที่ อจน. เข้าไปบริหารจัดการอยู่ และทาง อจน. ได้ดำเนินการตรวจวัดค่าคุณภาพน้ำทิ้งจากระบบบำบัดน้ำเสียแล้วซึ่งไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
โดยจากการร่วมประชุมหารือเพื่อหาสาเหตุและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่าน้ำทะเลที่เป็นสีดำ เกิดจากตะกอนเลนที่เน่าเสีย ซึ่งพบมากบริเวณที่มีความหนาแน่นของชุมชนและสถานประกอบการบริเวณชายทะเล โดยตะกอนเลนดังกล่าวเกิดจากการสะสมของของเสียที่ปล่อยลงสู่ทะเลเป็นระยะเวลานาน ประกอบกับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้มีน้ำฝนปริมาณมากไหลลงท่อของระบบรวบรวมน้ำเสีย ซึ่งรับน้ำเสียจากอาคารบ้านเรือน ทำให้เกิดการล้นของน้ำเสียและน้ำฝนออกจากบ่อรวบรวมน้ำเสียไหลลงสู่ทะเล เกิดเป็นตะกอนเพิ่มขึ้น และได้เกิดภาวะน้ำตาย ทำให้น้ำทะเลไม่พัดพาตะกอนเลนที่เสียออกนอกชายฝั่ง แต่กลับพัดพาตะกอนเลนที่เสียในชุมชนชายทะเลให้ขยายวงกว้างขึ้นมาถึงบริเวณชายหาดบางเสร่
สำหรับการแก้ไขปัญหานั้น เทศบาลตำบลบางเสร่ได้ดำเนินการทำความสะอาด ลอกท่อระบายน้ำในชุมชนชายทะเล ลอกเลนบริเวณชายหาดบางเสร่ และรณรงค์ให้ชุมชน สถานประกอบการบริเวณชายทะเล มีความรู้ความเข้าใจและบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงสู่ทะเล รวมทั้งตรวจสอบการจัดการน้ำเสียแหล่งกำเนิดมลพิษ ตามมาตรา 80
ส่วนแผนการแก้ไขในระยะยาวเทศบาลตำบลบางเสร่จะวางแผน การขยายระบบรวบรวมน้ำเสียและการต่อเชื่อมท่อน้ำเสียในพื้นที่ชุมชนและสถานประกอบการริมทะเลเข้าระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลตำบลบางเสร่ รวมทั้งเพิ่มศักยภาพของระบบบำบัดน้ำเสีย