พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมผลักดันให้ประเทศไทยเป็นชาติมหาอำนาจด้านการค้าผลไม้เมืองร้อนของโลก โดยจะใช้โอกาสการลงพื้นที่พบปะประชาชนและประชุม ครม.นอกสถานที่ ณ จ.จันทบุรีและตราด ในวันที่ 5-6 ก.พ.นี้ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านมาตรฐานคุณภาพผลไม้ไทยระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยบูรพา และบันทึกข้อตกลงการเชื่อมโยงตลาดผลไม้ แหล่งผลิต และตลาดรองรับสำคัญ ระหว่างหอการค้าจังหวัดต่าง ๆ กับหอการค้านำเข้าผลไม้ของจีนและหอการค้า จ.ไพลิน ของกัมพูชา
“ผลไม้ไทยมีความหลากหลาย มีรสชาติโดดเด่น เป็นที่ต้องการของตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และลำไย โดย จ.จันทบุรี เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านผลไม้และมีเป้าหมายเป็นมหานครผลไม้โลก แต่ยังคงมีข้อจำกัดด้านการผลิตและการตลาด ซึ่งรัฐบาลจะได้รับฟังปัญหาและร่วมกันแก้ไข ภายใต้ยุทธศาสตร์การค้าผลไม้ครบวงจร คือ การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของผลไม้ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พัฒนาช่องทางการจำหน่ายและกระจายผลไม้ไทย พัฒนาสมรรถนะของผู้ประกอบการ และประชาสัมพันธ์ผลไม้ให้เป็นที่ต้องการของตลาด” พลโท สรรเสริญ
สำหรับการลงพื้นที่ จ.จันทบุรี ของนายกฯ และ ครม. ครั้งนี้ นอกจากต้องการส่งเสริมให้เป็นเมืองผลไม้ของโลกแล้ว ยังจะผลักดันอุตสาหกรรมอัญมณี ติดตามการดำเนินงานของวิสาหกิจเพื่อสังคม การส่งเสริมการท่องเที่ยว และเกษตรอุตสาหกรรม ส่วน จ.ตราด เน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์อย่างยั่งยืน การอนุรักษ์ป่าชายเลน การจัดการน้ำเสีย และการพัฒนาสถาบันการเงินชุมชน
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ทุกครั้งที่ลงพื้นที่และประชุม ครม.นอกสถานที่ จะมีการพิจารณาแนวทางการพัฒนาภาคเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคนั้น ๆ โดยในครั้งนี้เป็นการลงพื้นที่ตะวันออก ซึ่งรัฐบาลจะรับฟังข้อเสนอและหารือร่วมกับภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่น และประชาชน เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายถนน รถไฟทางคู่ รถไฟโดยสารด่วนพิเศษ แก้ไขปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและไฟฟ้าดับ พัฒนาด่านชายแดน ท่าเทียบเรือ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ฯลฯ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในทุกด้าน ซึ่งจะสอดรับกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ของรัฐบาลอีกด้วย