ข่าวแรงงานไทยลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ หรือที่เรียกกันในวงการว่าผีน้อยระบาดหนัก โดยในปี 2017 มีแรงงานไทยถูกกฎหมายเข้าไปทำงานผ่านกระทรวงแรงงานไทยประมาณ 8,000 คน แต่มีคนไทยโดดหนีทัวร์อยู่เกินวีซ่าลักลอบทำงานถึงกว่า 60,000 คน จนเกิดเหตุส่งกลับคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเกาหลีบ่อยครั้ง ล่าสุดกระทรวงยุติธรรมเกาหลีต้องออกมาเตือนและตั้งท่ายื่นเรื่องขอยกเลิกการให้คนไทยเข้าเมืองโดยไม่ต้องใช้วีซ่า เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์แกมด่าทั่วทั้งโซเชียลเมืองไทย
การเข้าเมืองเพื่อไปทำงานนอกวีซ่า หรือการอยู่เกินวีซ่า ที่เรียกกันว่า “โดด” เพื่อเป็นแรงงานเถื่อนนั้น เป็นประเด็นปัญหาแรงงานไทยมาหลายสิบปีตั้งแต่ยุคที่คนไทยจำนวนมากไปทำงานก่อสร้างที่ซาอุดีอาระเบียในยุคทศวรรษที่ 2520-2530 เมื่อซาอุดีอาระเบียเกิดปัญหาทางการทูตกับไทย แรงงานไทยก็ย้ายการหางานมายังญี่ปุ่นและไต้หวันในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู แต่เมื่อฟองสบู่เศรษฐกิจของญี่ปุ่นแตกลง แรงงานไทยในญี่ปุ่นทั้งถูกและผิดกฎหมายก็ต้องทยอยกลับประเทศไทยพร้อมกับการปฏิรูประบบคนเข้าเมืองและจัดการแรงงานของญี่ปุ่น ทำให้การลักลอบเข้าไปทำงานในญี่ปุ่นยากขึ้น
จนถึงในยุคใกล้ ประเทศเกาหลีใต้ต้องการแรงงานจำนวนมากเพื่อเติมเต็มงานภาคเกษตรและอุตสาหกรรม สามารถจ่ายค่าแรงสูงกว่าประเทศไทย และคนไทยเดินทางเข้าเกาหลีใต้ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้จุดหมายปลายทางของเหล่าผีน้อยอันดับ 1 กลายเป็นเกาหลีใต้ในที่สุด
คนงานที่ไปทำงานต่างประเทศเหล่านี้ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงส่งเงินกลับมาพัฒนาบ้านเกิด สร้างความเจริญและเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมาอย่างยาวนาน จากตัวเลขเงินส่งกลับของแรงงานไทยโดยธนาคารแห่งประเทศไทย แรงงานไทยนำเงินเข้าประเทศในปี 2560 มากกว่า 1.2 แสนล้านบาท
แม้ว่าความจำเป็นของการดำรงชีพจะบังคับ แต่การลักลอบทำงานผิดกฎหมายเหล่านี้ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และทำให้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างถูกต้องมีความเสี่ยงถูกปฏิเสธการเข้าเมืองสูงขึ้น ทำให้ทัศนคติที่มีต่อคนไทยแย่ลง รวมถึงต้องอยู่ในสภาพการทำงานที่ขาดการดูแล เสี่ยงภัย และไม่สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ถูกต้องได้
แรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้เกิดขึ้นจากความประสงค์ต้องตรงกันของทั้งสองฝ่าย คือแรงงานและนายหน้าจัดหาแรงงานฝ่ายไทย และโรงงานรวมถึงไร่นาของชาวเกาหลีใต้ที่ต้องการแรงงานราคาถูก ทำให้เมื่อแรงงานผิดกฎหมายเข้าถึงประเทศแล้วมีงานรองรับโดยตรง มีที่พักและรายได้ที่ถึงแม้จะต่ำกว่ามาตรฐานเกาหลีแต่ก็สูงกว่างานในประเทศไทย ที่ราคาสินค้าเกษตรก็ตกต่ำ ทำงานในไร่นาเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่เป็นราคา งานในโรงงานหรืองานก่อสร้างก็ได้ค่าแรงน้อยรวมถึงมีการแข่งขันจากแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน ไม่พอเพียงต่อการดำรงชีพที่ดีหรือการแสวงหาโอกาสอื่นๆ ในชีวิต
การกวาดล้างผีน้อย และการเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในการส่งกลับคนไทย จึงเป็นแค่ปัญหาปลายเหตุ โดยทางเกาหลีก็เหมือนหลับตาข้างหนึ่งให้กับนายจ้างภาคเกษตรและอุตสาหกรรมขนาดเล็กเพื่อใช้แรงงานต่างด้าวทั้งไทยและฟิลิปปินส์ ไม่ต่างจากที่ภาคเกษตร ประมงและอุตสาหกรรมขนาดเล็กของไทยใช้แรงงานเขมร พม่า ไทยใหญ่ และลาว
ความแตกต่างจึงอยู่ที่มาตรการรับมือและปรับปรุงสภาพการทำงานของแรงงานต่างด้าวเหล่านั้นให้สอดคล้องกับสภาพการจ้างงานของประเทศ ปัจจุบันเกาหลีใต้มีข้อตกลงความร่วมมือด้านแรงงานกับประเทศไทยที่เรียกว่า EPS (Employment Permit System) ซึ่งผู้สมัครต้องเข้าอบรมและสอบภาษาเกาหลี TOPIK (Test of Proficiency in Korean) เบื้องต้น ก่อนจะได้รับว่าจ้างตามสัญญาจัดหางานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีค่าใช้จ่ายในราคาถูก ซึ่งจำนวนผู้เดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมายก็เพิ่มขึ้นทุกปีจากสภาวะเศรษฐกิจรากหญ้าไทยที่ซบเซา
หากทว่าฝ่ายเกาหลีเองก็ยังมิได้ปราบปรามนายจ้างอย่างจริงจังเด็ดขาด ในขณะที่แรงงานฝ่ายไทยก็ยังเชื่อนายหน้าจัดหางานเถื่อนมากกว่าที่จะเข้ามาฝึกอบรมกับกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน แม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าหลายเท่า รวมถึงกลัวการเรียนและสอบภาษามากกว่าการเสียเวลาไปฝึกตอบคำถามตบตาเจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลี ทำให้ปัญหาโดดทัวร์หนีวีซ่าไม่ลดลง
การแก้ไขปัญหาผีน้อยเกาหลี แทบไม่ต่างจากปัญหาแรงงานต่างด้าวไทย คือฝ่ายไทยต้องเจรจากับเกาหลีให้ยอมรับสภาพการจ้างงาน ลดอุปสรรคในการคัดกรองเข้าทำงานลง โดยอาจผ่อนปรนด้านค่าแรงขั้นต่ำให้เหมาะสมแก่นายจ้างในบางส่วนแต่คงสวัสดิการเอาไว้ให้เหมาะสม ประกอบกับการรณรงค์การจัดหางานถูกกฎหมาย กวาดล้างนายหน้าแรงงานเถื่อนที่หาได้ทั่วไปตามโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊คและไลน์ เพราะเก็บค่าจัดหางาน หักหัวคิว และกล่าวอ้างเกินจริง มีส่วนพัวพันกับการปล่อยกู้เพื่อไปทำงานอีกทอดหนึ่ง ซ้ำเติมสร้างปัญหาสังคมในประเทศให้หนักขึ้น
ส่วนกรณีการเข้าเมืองเพื่อประกอบอาชีพขายบริการทางเพศนั้น สมควรกวาดจับทั้งนายหน้า ผู้สมรู้ร่วมคิด ตัวแทนจัดหาให้เข้มงวด เพราะนายหน้าจำพวกนี้มีส่วนเข้าข่ายการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติร้ายแรง พร้อมตักเตือนผู้ค้าและผู้ซื้อบริการให้ตระหนักถึงความร้ายแรงของกลุ่มที่ตนเข้าร่วม
ปัญหานี้ยังระบาดต่อไม่ใช่แค่เกาหลี เมื่อญี่ปุ่นและไต้หวันเปิดวีซ่าฟรีให้แก่คนไทย ก็เริ่มมีแรงงานผิดกฎหมายลักลอบเข้าไปทำงานเกินวีซ่า ทำให้ญี่ปุ่นทบทวนนโยบาย และไต้หวันลดวันในการพำนักลง รวมถึงไต้หวันยังอาจจำกัดรอบการเดินทางโดยไม่มีวีซ่าเหลือปีละครั้งสำหรับคนไทยและฟิลิปปินส์ แต่ทั้งญี่ปุ่นและไต้หวันมีมาตรการส่งเสริมการทำงานถูกกฎหมายของชาวต่างชาติ การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และการกวาดจับนายจ้างแรงงานผิดกฎหมายที่เข้มงวด จึงคาดว่าสถานการณ์ของทั้งสองประเทศจะไม่รุนแรงเท่าเกาหลี
ผู้สนใจทำงานในต่างประเทศอย่างถูกกฎหมาย สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดในภูมิลำเนาที่ตนอยู่อาศัย โดยประเทศหลักที่ต้องการแรงงานไทยเป็นประจำได้แก่ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น อิสราเอล บาห์เรน ตรวจสอบตำแหน่งงานได้ที่ ข่าวประกาศรับสมัครแรงงานไทยไปต่างประเทศของกระทรวงแรงงาน และประกาศของกระทรวงแรงงานในเพจกรมการจัดหางาน รวมถึงการสมัครเข้าร่วมกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่แม้จะต้องเตรียมเอกสารและผ่านเงื่อนไขหลายประการ แต่ก็มั่นใจได้ว่าได้ทำงานถูกกฎหมาย ได้รับความคุ้มครอง มีสวัสดิการ และเสียค่าใช้จ่ายไม่มาก
การทำงานต่างประเทศนั้นเป็นเรื่องดี ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในไร่นา โรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้แต่พนักงานบริษัทที่สมัครผ่านการคัดเลือก เพราะจะได้มีโอกาสเปิดหูเปิดตาเปิดโลกให้กว้างขึ้น สามารถรับเอาความแตกต่างทางวัฒนธรรม เทคโนโลยี และชีวิตการทำงานกลับไปยังประเทศของตน นำทุนทั้งตัวเงินและวัฒนธรรมไปสร้างงานสร้างรายได้เข้าสู่ครอบครัวและประเทศ แต่รัฐบาลไทยเองก็พึงตระหนักว่า การพัฒนาเศรษฐกิจของชาติให้สร้างงานที่มีรายได้เพียงพอต่อการครองชีพอย่างเป็นสุข ประชาชนผู้ทำงานสามารถเลี้ยงตัว ครอบครัว และก้าวหน้าในอาชีพได้โดยไม่ต้องย้ายถิ่นไม่ว่าจะเข้ากรุงเทพหรือไปเมืองนอก ก็จะเป็นวิธีแก้ไขปัญหาแรงงานไปทำงานต่างประเทศผิดกฎหมายอย่างยั่งยืนแท้จริง