นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ณ ศูนย์จัดแสดง จำหน่าย และกระจายสินค้า OTOP จังหวัดเชียงใหม่ (ข่วงสันกำแพง) และชุมชนบ้านมอญ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 โดยมี นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ข่วงสันกำแพง เป็นศูนย์กลางสำคัญในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นพื้นที่รวบรวมและจัดแสดงสินค้าจากหลากหลายชุมชนในพื้นที่ภาคเหนือ ทั้งในด้านหัตถกรรม ผ้าและสิ่งทอ อาหารและสมุนไพร รวมถึงของใช้ของที่ระลึก ซึ่งแต่ละรายการมีความโดดเด่นเฉพาะตัว สะท้อนภูมิปัญญา วิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ข่วงสันกำแพงยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กระจายสินค้า OTOP ไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ มีบทบาทในการสร้างงาน สร้างรายได้ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก ส่งเสริมธุรกิจของผู้ประกอบการในชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนบ้านมอญ ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาสินค้าที่มีเอกลักษณ์ สอดคล้องกับภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่น

ทั้งนี้ ในจุดที่ 2 ณ วัดบ้านมอญ นางสาวธีรรัตน์ยังได้กล่าวชื่นชมชุมชนบ้านมอญที่มีการประยุกต์ใช้โครงการ OFOS (One Family One Soft Power) อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการนี้มุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของแต่ละครอบครัวในการถ่ายทอด “Soft Power” เช่น ศิลปวัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น หัตถกรรม ภาษา และภูมิปัญญาชุมชน ให้กลายเป็นสินค้าหรือบริการที่มีคุณค่า สามารถสร้างรายได้ และยกระดับชื่อเสียงของท้องถิ่นสู่ระดับประเทศและสากล

รัฐมนตรีช่วยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “Soft Power ของไทยไม่ใช่เรื่องไกลตัว เริ่มต้นได้จากแต่ละครอบครัวในชุมชน เราเห็นแล้วว่าบ้านมอญสามารถนำวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มาแปรเปลี่ยนเป็นพลังทางเศรษฐกิจได้จริง โครงการ OFOS คือเครื่องมือที่จะต่อยอดให้ไทยยืนหยัดอย่างภาคภูมิในเวทีโลก ผ่านรากเหง้าของเราเอง”

การใช้ OFOS ควบคู่กับโครงการ OTOP ถือเป็นแบบอย่างที่ดีของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเชิงสร้างสรรค์ ที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับแนวทาง “เศรษฐกิจสร้างสรรค์” ที่รัฐบาลโดยการนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังผลักดันอย่างต่อเนื่อง