การประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติในวันนี้ (14 ม.ค.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธาน ได้นำข้อห่วงใยของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต่อสถานการณ์ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานที่กำลังเกิดขึ้นใน กทม. และปริมณฑลในขณะนี้ ที่มีบัญชาให้หน่วยงานด้านความมั่นคง กองทัพ และกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนและประสานความร่วมมือกับ กทม. ในการคลี่คลายสถานการณ์และลดผลกระทบโดยเร็วที่สุด โดยรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ กทม. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกองทัพภาคที่ 1 กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย และกองทัพบก ร่วมกันหารือแนวทาง โดยพิจารณาทั้งการดำเนินการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ทั้งนี้ในระยะเร่งด่วนได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ด้วยปฏิบัติการล้างทำความสะอาดถนน และทำการฉีดพ่นละอองน้ำในพื้นที่ต่างๆ ทั่ว กทม. เพื่อลดปริมาณฝุ่นที่เกิดจากการก่อสร้างและฝุ่นจากการจราจรบนท้องถนน โดยทันที ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะระดมศักยภาพร่วมปฏิบัติการในวันนี้ (14 ม.ค.)
นอกจากนี้ รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนและการฟื้นฟูพื้นที่หลังเกิดพายุ “ปาบึก” ซึ่งขณะนี้ทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงกองทัพบกได้ส่งหน่วยทหารช่างจากส่วนกลาง ร่วมบูรณาการซ่อมแซมบ้านเรือน สาธารณูปโภค และเส้นทางที่ชำรุด ทั้งนี้ จากการตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของชาวประมงพื้นบ้าน และมีนโยบายที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านใน ๒๒ จังหวัดให้ดีขึ้น รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมมอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เร่งดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยให้มีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดมาตรการช่วยเหลือดูแลให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
รองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้กล่าวถึงภาพรวมของประเทศที่อยู่ในช่วงวาระสำคัญ ที่จะมีพระราชพิธีและการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำลังเตรียมการในงานดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในทุกมิติ สำหรับในส่วนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ย้ำให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยยังคงปฏิบัติงานด้วยความเข้มแข็งในการสนับสนุนงานบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ช่วยเหลือประชาชน และดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวมเพื่อเอื้ออำนวยต่อการจัดการเลือกตั้ง ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน โดยเน้นการสร้างการรับรู้ในเรื่องความคืบหน้าในการบริหารงานภาครัฐที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน การเผยแพร่ข้อมูลจากรายการศาสตร์พระราชา รวมทั้งการชี้แจงข้อมูลข่าวสารที่เป็นข้อเท็จจริงต่างๆ ให้สังคมได้รับทราบอย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ การดูแลความสงบเรียบร้อยเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเลือกตั้งนั้นเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำคัญที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จะต้องปฏิบัติตามแนวทางที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนดไว้ ซึ่งรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กำชับส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ ให้ปฏิบัติหรืออำนวยความสะดวกแก่พรรคการเมืองในการลงพื้นที่พบปะประชาชนและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองในพื้นที่ต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเท่าเทียม เสมอภาค ตามแนวทางที่เหมาะสม ภายใต้กรอบกติกาและกฎหมาย เพื่อสร้างบรรยากาศของประเทศให้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งได้อย่างราบรื่น