ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ TOT นำสายสื่อสารในพื้นที่ กทม.ลงดิน ทำได้ทันที 48.7 กม.และต้องเสร็จใน 3 เดือน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การหารือ เรื่องการนำสายสื่อสารลงใต้ดินพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในเส้นทางที่การไฟฟ้านครหลวงไม่มีการรื้อถอนเสาไฟฟ้า และไม่มีสภาพบังคับ ระหว่าง บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ,กรุงเทพมหานคร และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) ได้ข้อสรุปว่า ให้ทีโอที ดำเนินการในพื้นที่ที่ทีโอที พร้อมให้บริการได้ทันที คือ 12 เส้นทาง จำนวน 48.7 กิโลเมตร ตาม ที่ทีโอทีเสนอว่าพร้อมดำเนินการได้ภายใน 3 เดือน โดยไม่ต้องทำไรเซอร์ หรือจุดเชื่อมต่อจากท่อใต้ดินสู่ริมฟุตบาท เพื่อเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชน

ทั้งนี้มติของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) มีมติให้ทีโอทีดำเนินการได้ หากพิสูจน์ได้ว่ามีท่อร้อยสายพร้อมใช้งาน ส่วนกรุงเทพมหานครเองก็มีแผนต้องทำท่อร้อยสายเพื่อวางสายเกี่ยวกับความมั่นคง เช่น สายกล้องวงจรปิด สายแจ้งเตือนภัยต่างๆ เป็นต้น

ส่วนพื้นที่ไหน ที่ทีโอทีต้องขุดใหม่ กรุงเทพมหานคร ไม่อนุญาตให้ทีโอทีขุดเพิ่ม เว้นแต่พื้นที่ขุดทำไรเซอร์ ก็สามารถทำเรื่องขอกรุงเทพมหานคร ขุดเป็นพื้นที่ๆ ไป ทั้ง กทม. และ ทีโอทีต่างคนต่างดำเนินการ ขึ้นอยู่กับเอกชนว่าจะใช้บริการของใคร ส่วนเส้นทางที่เหลือทีโอทีต้องสำรวจก่อนว่าสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องขุดท่อใหม่หรือไม่ เพราะหากต้องขุดท่อใหม่กทม จะไม่อนุญาตให้ทำ

ด้าน พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร กล่าวว่า กทม. จำเป็นต้องเดินหน้าตามมติบอร์ดดีอีและมติ ครม. ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมติ ครม. ให้ดำเนินการให้เสร็จภายใน 2 ปี แต่ กทม. ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้เป็นเวลา 8-9 เดือน ซึ่งกทม. เร่งดำเนินการอยู่และได้ว่าจ้างบริษัทผู้รับเหมาขุดท่อร้อยสายเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ กทม. มีแผนในการนำสายเกี่ยวกับความมั่นคงลงใต้ดินอยู่แล้ว และ กทม. ไม่ได้บังคับให้เอกชนต้องมาใช้งานของ กทม. เพียงแต่ กทม.ต้องการผู้เช่าระยะยาว 30 ปี เพราะด้วยเทคโนโลยีใหม่ สามารถหาผู้เช่าระยะยาวได้ ไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อยๆ ดังนั้นพื้นที่ไหนที่ต้องขุดพื้นถนน กทม. จะไม่อนุญาตให้ขุด และการเดินทางไปดูจุดให้บริการท่อร้อยสายนำร่องที่ทีโอทีจะพาไปสำรวจนั้น ตนขอไม่เดินทางไปดูด้วย เพราะเป็นพื้นที่ที่มีหลายโครงการอยู่ หากเดินทางไปดูอาจจะมีปัญหาภายหลังได้

ขณะที่นายมรกต เธียรมนตรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานพัฒนาองค์กร และรักษาการแทนรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สำนักสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีโอที ได้ทำแผนที่ดิจิทัล เพื่อระบุถึงพื้นที่ที่ทีโอทีมีท่ออยู่ใน กทม. จำนวน 2,500 กิโลเมตร ให้กับกรุงเทพมหานครสามารถเข้ามาดูได้ตลอดเวลาแล้ว โดยภายในสัปดาห์หน้าทีโอทีสามารถดำเนินการได้ทันที 12 เส้นทาง จำนวน 48.7 กิโลเมตร ซึ่งสถานที่นำร่องที่ทีโอทีสามารถดำเนินการได้ทันทีนั้น ล้วนเป็นสถานที่ที่ไม่ต้องขุดไรเซอร์ หรือ จุดเชื่อมต่อสายจากใต้ดินขึ้นมาสู่พื้นดินตรงหน้าริมฟุตบาทสำหรับเชื่อมไปยังอาคารบ้านเรือนผู้ใช้งาน เนื่องจากทีโอทีมีอยู่แล้ว ซึ่งใน 1 ซับดัก สามารถนำสายสื่อสารร้อยลงไปได้ 2-3 เส้น

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า ในส่วนของเงินสนับสนุนค่าเช่าท่อร้อยสายนั้นจะมีการนำเสนอบอร์ดดีอีเพื่อนำเงินจากกองทุนยูโซ่มาสนับสนุน ร้อยละ 50 เพื่อแบ่งเบาภาระให้เอกชนที่ต้องนำสายที่เคยพาดบนเสาไฟฟ้าลงใต้ดิน แต่จะไม่ช่วยค่าเช่าสำหรับสายโทรคมนาคมเส้นใหม่ เช่น สาย 5G เพราะเป็นต้นทุนที่เอกชนต้องคำนวนไว้อยู่แล้วตอนประมูลคลื่น

ขณะที่ กทม.เองต้องตั้งงบประมาณในการช่วยเหลือเงินค่าเช่ามาด้วยเพราะ กทม. ก็สามารถเบิกงบประมาณมาได้ ดังนั้น กสทช. จะสนับสนุนเงินให้ กทม.ไม่เต็มร้อยละ 50 ส่วนจะเป็นสัดส่วนเท่าไหร่นั้นต้องหารือกับอีกครั้ง