เว็บไซต์ Business Insider รายงานว่า ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของเกาหลีใต้ยืนยันว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบินโคเรียนแอร์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ปฏิบัติงานบนเที่ยวบินที่เดินทางระหว่างเกาหลีใต้กับเมืองเทลอาวีฟของอิสราเอลเมื่อวันที่ 15 ก.พ. โดยมีผู้โดยสารบนเที่ยวบินทั้งหมด 200 คน ขณะที่อิสราเอลมีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วทั้งสิ้น 31 คน
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนดังกล่าวทำงานในเที่ยวบินที่ KE957 เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2563 โดยเป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 777-200 รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 200 คน โดยมีผู้โดยสารชาวเกาหลีใต้ราว 200 คนร่วมเดินทางในเที่ยวบินนี้และบินไปลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนานาชาติหลักของประเทศอิสราเอล และผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่เดินทางไปยังท่าอากาศยานนี้มีจุดหมายปลายทางหลักสองแห่งคือนครเทลอาวีฟและกรุงเยรูซาเลม
แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนดังกล่าวได้เดินทางไปที่ใดอีกบ้าง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าหลังจากเที่ยวบินจากเกาหลีใต้ไปยังอิสราเอล พนักงานคนนี้ได้ปฏิบัติงานเพิ่มเติมบนเที่ยวบินที่เดินทางจากกรุงโซลของเกาหลีใต้ไปยังสหรัฐฯ อีกด้วย
สำนักข่าว The Los Angeles Times รายงานว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินคนนี้อาจเดินทางจากกรุงโซลไปยังนครลอสแองเจลีส 2 เที่ยวบิน คือ KE17 และ KE12 ด้วยเครื่องบินโบอิง A380 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 400 คน ในวันที่ 19 และ 20 ก.พ. และนอนค้างคืนที่ลอสแองเจลิส 1 คืน
ด้านสำนักข่าว CNBC รายงานอ้างอิงจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคเกาหลีใต้ ระบุว่า เช้าวันนี้ที่ 27 ก.พ. มีผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นอีก 334 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมอยู่ที่ 1,595 คน มากกว่าครึ่งเป็นการติดเชื้อจากโบสถ์ชินชอนจิในเมืองแทกู ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตคงที่อยู่ที่ 12 ราย