นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลาง ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาโครงการช่วยเหลือด้านพลังงานแก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร่วมกับกระทรวงพลังงาน และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อปรับวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือโดยวิธีใหม่ กรมบัญชีกลางได้ให้ ปตท. ตรวจสอบข้อมูลผู้มีสิทธิเดิมกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 88,189 ราย ซึ่ง ปตท.กำหนดวงเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 30 ล้านบาท
โดยการช่วยเหลือเป็น 'ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม' แก่ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 100 บาทต่อเดือน ซึ่งผู้มีสิทธิดังกล่าวสามารถใช้วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มกับร้านค้าที่มีเครื่อง EDC (เครื่องรูดบัตร) ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐได้ทุกร้าน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2562 และการช่วยเหลือนี้ไม่เกี่ยวกับวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ที่ให้อยู่ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในปัจจุบัน (45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน)
สำหรับวิธีใหม่นี้ ต่างจากเดิมที่ผู้มีสิทธิลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว จะสามารถใช้สิทธิด้วยการส่งข้อความ SMS ผ่านโทรศัพท์มือถือ และจะได้รับข้อความตอบกลับเพื่อใช้เป็นหลักฐานใช้สิทธิซื้อก๊าซหุงต้ม แต่จากการสำรวจของ ปตท. พบว่ามีการใช้สิทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 90 – 100 บาทต่อเดือน ซึ่งการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวได้สิ้นสุดในเดือน ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา
ส่วนร้านค้าที่ร่วมโครงการ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม หลังจากที่ผู้มีสิทธินำบัตรสวัสดิการฯ ชำระค่าก๊าซหุงต้มแล้ว ซึ่ง บมจ.ธนาคารกรุงไทย จะแจ้งยอดการใช้จ่าย จำนวนรายการ และจำนวนเงินให้กรมบัญชีกลางทราบในวันทำการถัดไป เพื่อโอนเงินให้แก่ร้านค้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม การลงนามข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ กรมบัญชีกลางมุ่งเน้นให้ประโยชน์ตกแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยโดยตรง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับการช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนจากการดำรงชีพในปัจจุบัน และสอดรับกับนโยบายการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย
ข่่าวที่เกี่ยวข้อง :