ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยแกนนำ ผู้บริหาร และสมาชิกพรรค ร่วมด้วย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง นายประภัสร์ จงสงวน กรรมการยุทธศาสตร์พรรค ประกอบพิธีบวงสรวงและสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่วงเวียนใหญ่ โดยมีพราหมณ์คเชนทร์ เป็นผู้ประกอบพิธี ทั้งนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2562 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ จากนั้นได้ร่วมกันเปิดศูนย์ประสานงานพรรคไทยรักษาชาติ เขต 22 (คลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี)

ร.ท.ปรีชาพล กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการเปิดศูนย์ประสานงานฯว่า ขอให้ชาวคลองสาน บางกอกใหญ่ ธนบุรี เทคะแนนให้ผู้สมัครของพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อให้โอกาสพรรคไทยรักษาชาติได้เข้ามาทำงาน ซึ่งพรรคจะไปเลือกนายกรัฐมนตรีที่มาจากฝ่ายประชาธิปไตย

และขณะนี้คณะกรรมการสรรหาของพรรคอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวผู้สมัคร ส.ส.ในระบบเขตเลือกตั้งเกือบครบ 100 เปอร์เซนต์แล้ว ส่วนผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่ออยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น จากนั้นจะส่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบ คาดจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนนี้ (ม.ค.62)

ส่วนบัญชีรายชื่อนายกฯนั้น ร.ท.ปรีชาพลไม่ตอบรับว่าจะเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อในฐานะนายกฯ คนรุ่นใหม่หรือไม่ เพียงแต่ระบุว่า พรรคยังไม่ได้มีการพิจารณา แต่ยืนยันได้ว่าไทยรักษาชาติมีบุคคลากรที่พร้อมเป็นจะนายกฯ มากกว่า 3 คน แต่ทั้งนี้คงต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณา 

ขณะที่กรณีการยื่นแสดงภาษีย้อนหลัง 3 ปีที่ กกต.กำหนดให้ผู้สมัครส.ส.ต้องดำเนินการนั้น พรรคไทยรักษาชาติไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวและอีกหลายคนจะไปยื่นขอเอกสารดังกล่าวด้วย

'จาตุรนต์' พร้อมเปิดนโยบายหาเสียง 29 ม.ค.นี้

ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่ปรากฎทำให้ประเมินท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี มีโอกาสเข้ามาเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ มากกว่าการเข้ามาแบบนายกฯ คนนอก เนื่องจากที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ แสดงท่าทีและมีความตั้งใจที่จะเข้ามาในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว

ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปรียบคนอื่นตรงที่มี ส.ว. แต่งตั้ง 250 คนรอไว้แล้ว โดยเมื่อถึงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง จะเหลือประเด็นเดียวที่พี่น้องประชาชนจะใช้ตัดสินใจ คือจะให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ อีกหรือไม่

ทั้งนี้ ตามหลักการเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์มีแนวโน้มที่จะไปเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ประกอบกับการที่มี 4 รัฐมนตรีอยู่ในพรรค รัฐบาลปัจจุบันต้องเปลี่ยนสถานะมาเป็นรัฐบาลรักษาการด้วย

ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ ยอมรับว่า ระเบียบและกติกาหาเสียงที่ กกต.กำหนด ทำให้พรรคไทยรักษาชาติต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การหาเสียง โดยจะเน้นการเข้าถึงประชาชนโดยตรง ซึ่งระเบียบและกติกาที่ออกมาไม่ได้ส่งเสริมให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร 

ทั้งนี้ นอกจากการหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียที่มีปัญหาและความไม่เข้าใจเกิดขึ้นแล้ว ประเด็นเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ที่มีการกำหนดไว้ในระเบียบของ กกต. ที่เน้นย้ำถึงจรรยาบรรณและวิชาชีพ และต้องให้โอกาสพรรคการเมืองต่างๆอย่างเท่าเที่ยมกันนั้น จะส่งผลกระทบต่อวงการสื่ออย่างแน่นอน 

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 29 ม.ค. นี้พรรคจะเริ่มเปิดนโยบายที่จะใช้หาเสียง โดยตั้งประเด็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขไว้ 10 เรื่อง ซึ่งเป็น 10 เรื่องที่ประชาชนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาทางเศรษฐกิจที่ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติจะเสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้