พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง pm2.5 ว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว อย่างวานนี้ (30 ม.ค.) สั่งปิดโรงเรียน เพราะเด็กมีภูมิต้านทานต่ำกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งต้องได้รับการดูแล แต่ผลกระทบที่ตามมา คือ ชั่วโมงเรียนที่หายไป ดังนั้นต้องหาชั่วโมงเรียนเพิ่มขึ้นภายหลัง ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน ที่ผ่านมาไม่ว่ารัฐบาลนี้จะสั่งการอะไรต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบด้าน เนื่องจากต้องไปดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นจากอะไร อยู่ตรงไหน ถ้าเราไม่รู้ปัญหาจะพูดไปเรื่อยเปื่อย จนกลายไปสู่เป็นปัญหาการเมือง การที่พูดไปมาจะเป็นประเด็นการเมืองไปหมด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย เพราะไม่ใช่ประเด็นนั้น และปัญหาฝุ่นก็มีมาทุกปี แต่ปีนี้รัฐบาลนี้ ให้ทุกคนรับทราบว่าสถานการณ์ฝุ่นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว แต่ก่อนไม่มีการแจ้ง รัฐบาลมีตัวเลขออกมาให้เห็นเพื่อให้ทุกคนได้เตรียมการ

พร้อมย้ำว่าสุขภาพของประชาชนดีที่สุดต้องช่วยกันแก้ที่ตนทางให้ได้ ดังนั้นจึงเชิญชวนประชาชนที่พบเห็น รถเมล์ รถส่วนตัวและรถบรรทุก ที่มีควันดำสามารถแจ้งมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือโพสภาพผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะตนจะเข้าไปติดตามเรื่องนี้เอง หากพบว่าก่อควันดำก็จะลงโทษขั้นเด็ดขาดทันที ที่ผ่านมาได้มีการตรวจรถเมล์มากกว่า 1,000 คัน หากขั้นในที่ผ่านการตรวจแล้วไม่ผ่านก็จะมีการติดสติกเตอร์เเพื่อไม่ให้นำมาให้บริการ อยากให้ดูให้ดีไม่ใช่นำไปโพสลงในโซเชียลมีเดียโดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

นอกจากนี้ ปัญหาด้านการจราจร สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากยานพาหนะ ซึ่งการแก้ปัญหาที่ตรงจุดคือการ ลดใช้ยานพาหนะให้น้อยลง แต่ก็กลับถูกประชาชนตั้งคำถาม ว่ารถสาธารณะยังไม่เพียงพอ เรื่องนี้จะให้ตนทำอย่างไร เพราะรถไฟฟ้ายังก่อสร้างอยู่ หากให้หยุดก่อสร้าง อีกทั้งเมื่อลงตรวจบนท้องถนน ก็พบว่าค่าฝุ่นไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่กลับไปพบมากที่ใต้สะพาน เนื่องจากฝุ่นลอยต่ำ

ซึ่งหากยังให้ใช้ยานพาหนะอยู่แบบนี้ ปัญหาดังกล่าวก็จะไม่จบ ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจช่วยกัน หากประชาชนที่มีข้อเสนอ ก็เสนอมายังรัฐบาลได้ แต่ต้องคิดให้ถี่ถ้วนด้วยเพราะจะต้องไม่ทำให้ใครเดือนร้อน ซึ่งรัฐบาลต้องคิดสองทางอยู่เสมอ แต่ต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กรมควบคุมมลพิษ ได้ลงพื้นที่ไปสำรวจ ว่าโรงงานพื้นที่ไหหน มีค่าฝุ่นควันสูง โดยสรุปแล้ว ต้นทางมักมาจากหลายพื้นที่ โรงงานส่วนใหญ่ ที่ได้ไปตรวจในพื้นที่ก็พบว่าค่าฝุ่น ไม่สูง บางอย่างเป็นควันขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่pm 2.5 เพราะที่ก่อ pm2.5 มีเพียงไม่กี่โรงงาน ซึ่งเมื่อตรวจโรงงานเหล่านี้ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดี

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า หากพิจารณาแล้ว สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็ต้องประกาศสถานการณ์ใหม่ วันนี้รัฐบาลมีแผนที่รองรับไว้ตามลำดับอยู่แล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประชุมร่วมกันโดยให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้รวบรวมมาตรการ แล้วจัดตามลำดับขั้นตอน แต่หากยังไม่ดีขึ้น อยู่ในขั้นสูงสุด รัฐบาลก็จะประกาศให้เป็นสถานการณ์ภัยพิบัติในทันที แต่จะกระทบเรื่องการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวม 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'ประวิตร' หาทางฝ่าวิกฤต 'ฝุ่น' คลุมเมือง เล็งเปลี่ยนบ้านพักเป็นออฟฟิศ
• กทม.ปล่อยโดรนพ่นน้ำแก้ปัญหาฝุ่นละออง