นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด คณะทำงานสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีความพยายามบิดเบือนข้อมูล พบกระบวนการโจมตีพรรคพลังประชารัฐรายวัน และดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสอดรับกันหลายฝ่าย ว่า ถ้าพิจารณาอย่างละเอียดและเป็นธรรม จะพบว่าแทบทุกเรื่องพรรคพลังประชารัฐทำตัวเองทั้งสิ้น ทั้งข่าวระดมทุนโต๊ะจีนคำละ 3,000 บาท ที่มีชื่อหน่วยงานรัฐบริจาค 69 ล้านบาท นายอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พาผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐไปหาเสียงโดยการแจกบัตรคนจน เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปอารักขาผู้สมัครของพรรค หรือการบังคับสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐแลกบัตรคนจน เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครไปทำให้ ทำตัวเองล้วนๆ
และกรณีนายเกียรติบุรุษ พันธ์เลิศ โพสต์คลิปประจานเจ้าหน้าที่ให้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐเพื่อแลกบัตรคนจน สมควรที่คนไทยจะต้องสดุดีในความกล้าหาญของคนรุ่นใหม่ ควรภาคภูมิใจกับการออกมาปกป้องสิทธิของตนเอง ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง สังคมไทยควรมีคนอย่างนายเกียรติบุรุษ สักล้านเกียรติบุรุษ จะได้ร่วมกันตรวจสอบและรักษาสิทธิของตนเองไม่ให้มีการทุจริตที่จะนำไปสู่การโกงเลือกตั้ง ไม่ควรถูกคุกคามโดยการเรียกไปปรับทัศนคติ บ้านเมืองจะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อประชาชนเข้มแข็ง
ประชาชนควรมีส่วนร่วมป้องกันการโกงเลือกตั้ง คนชี้เบาะแสไม่ใช่อาชญากร รัฐต้องให้ความคุ้มครอง กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องเข้าไปดูแล กกต.ต้องรีบสอบสวนหาข้อเท็จจริง กลายเป็นว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังจะสร้างภาระให้กับ กกต.ในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน บอกว่ารัฐธรรมนูญออกแบบมาเพื่อพวกเรา มีอำนาจมาตรา 44 อยู่ในมือ มีส.ว.รองรังอยู่แล้ว 250 เสียง นายวิษณุ เครืองาม บอกว่ารัฐบาลอยู่เฉยๆก็ได้เปรียบ แต่ 4 รัฐมนตรีไม่ลาออก
ภารกิจในการทำให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมเป็นภารกิจของคนไทยทุกคน ประชาชนจับตาดูอยู่ว่าพรรคพลังประชารัฐเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมหรือไม่ อย่าทำอะไรที่ไม่เคารพประชาชน อย่าบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความขัดแย้ง