ไม่พบผลการค้นหา
กกต. ลงพื้นที่ตรวจการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. เขต 13 พบเป็นไปด้วยความเรียบร้อยใช้สิทธิน้อยร้อยละ 40 ยืนยันสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อจะได้ข้อยุติก่อน 9 พ.ค. ที่เป็นเส้นตายวันประกาศผล ส.ส.

นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างการลงตรวจการนับคะแนนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ในหน่วยที่ 32 เขตเลือกตั้ง 13 กทม.ที่โรงเรียนลำสาลีราษฎร์บำรุง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ โดยระบุว่า การเลือกตั้งซ่อมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและคนใช้สิทธิน้อยร้อยละกว่า 40 เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาที่มีการเลือกตั้งซ่อม อีกทั้งมีเวลาเตรียมการประชาสัมพันธ์ 1 สัปดาห์และอยู่ในช่วงหยุดยาว ส่วนเหตุที่ไม่มีการเลือกตั้งซ่อมในหน่วยงานอื่นที่มีปัญหา เนื่องจากตรวจสอบแล้วพบว่า ไม่เข้าขายที่ถือเป็นการทุจริตโดยเจตนา อย่างการทิ้งบัตรประจำตัวประชาชนลงในหีบเลือกตั้ง แล้วนำบัตรเลือกตั้งกลับบ้านไปในบางหน่วย ก็จะไม่มีการเลือกตั้งใหม่ แต่หน่วยนี้ กกต.ตรวจไม่พบว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นจากเหตุใดหรือหาสาเหตุไม่ได้ จึงต้องเลือกตั้งใหม่ และมีคณะกรรมการที่จะต้องตรวจสอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอยู่


เลือกตั้งซ่อม

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญส่งคำวินิจฉัยสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อมาไม่ทันวันที่ 9 พ.ค. นายเลิศวิโรจน์ ระบุว่า ไม่เป็นกังวล เพราะ กกต. มีสูตรของตัวเองที่เชื่อว่า ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและคำนวณได้ ส.ส.ครบ 150 คน ขณะที่ศูนย์อื่นๆคำนวณได้ไม่ถึง 150 คนและมีข้อถกเถียงในสังคม จึงต้องหารือกับศาล อย่างไรก็ตาม ต้องรอให้ฝ่ายสำนักงานส่งเรื่องมาเกี่ยวกับสูตรและการดำเนินการ แต่ยืนยันได้ว่า กกต.ไม่ได้ยึดตามที่สำนักงานเสนออย่างเดียว โดยจะกำหนดสูตรการคำนวณและรับรองผลเลือกตั้ง ให้มี ส.ส. ครบเพียงพอเปิดประชุมสภาทันวันที่ 9 พ.ค. หรือภายในวันที่ 9 พ.ค. ได้อย่างแน่นอน

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยจะยื่นฟ้องเอาผิด กกต.หากนำสูตรที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอมาใช้ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่เชื่อว่าขัดรัฐธรรมนูญนั้น นายเลิศวิโรจน์ ระบุว่า เป็นสิทธิที่พรรคเพื่อไทยจะทำได้ แต่กกต. ก็มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำและเชื่อมั่นว่าสูตรที่จะเสนอสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแน่นอน

ผลเลือกตั้งซ่อมหน่วยที่ 32 'พปชร.-ปชป.' คะแนนเท่ากัน

สำหรับผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ในหน่วยที่ 32 เขตเลือกตั้งที่ 13 (บางกะปิ) กทม. ที่โรงเรียนลำสาลีราษฎร์บำรุง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้มีผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยและหลายคนสับสนเรื่องสิทธิและหน่วยที่ต้องเลือกตั้งใหม่ โดยหน่วย 32 เขต 13 กทม. มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 802 คน การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. มีผู้มาใช้สิทธิ 555 คน แต่นับได้เพียง 554 คะแนน หรือผลคะแนนไม่ตรงกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ทำให้ กกต.จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ 

โดยหลังปิดหีบ มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อมทั้งสิ้น 370 คน บัตรดี 355 ใบ บัตรเสีย 9 ใบ ไม่ประสงค์ลงคะแนน 6 ใบ ใช้บัตรจำนวน 820 ใบส่วนที่เกินได้ทำลายทิ้งแล้ว ขณะที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย, พรรคอนาคตใหม่และพรรคประชาธิปัตย์ เข้าสังเกตการณ์ตรวจนับคะแนนด้วย แต่ไม่ปรากฏผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนผลคะแนนไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ เบอร์ 9 พรรคพลังประชารัฐ กับนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เบอร์ 8 พรรคประชาธิปัตย์ ได้คะแนนสูงสุด 69 คะแนนเท่ากัน ถัดมาคือ นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เบอร์ 5 พรรคเพื่อไทย ได้ 57 คะแนน ส่วน น.ส.ณิชชา บุญลือ เบอร์ 10 พรรคอนาคตใหม่ ได้ 44 คะแนน พรรคอื่นๆ ได้แก่ พรรคพลังท้องถิ่นไทย ได้ 32 คะแนน, พรรคเสรีรวมไทยได้ 21 คะแนน, พรรคเศรษฐกิจใหม่ได้ 3 คะแนนพรรค, พรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชาติ ได้ 2 คะแนนเท่ากัน และพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้พรรคละ 1 คะแนนเท่ากัน

โดยหลังการตรวจนับคะแนนเสร็จสิ้นผู้สมัครของแต่ละพรรคที่เข้าสังเกตการณ์ ต่างยอมรับผลการเลือกตั้งซ่อม แม้ว่าในส่วนของผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันว่า ได้ยื่นเรื่องต่อผู้เกี่ยวข้องและต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเขตที่ 13 กทม.ทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะหน่วยที่ 32 เท่านั้นก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง