สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นพ.เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา และ นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มเพิ่งเดินทางกลับจากร่วมกิจกรรมทางศาสนาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อวานนี้ จำนวน 76 ราย

นายจารุวัฒน์ กล่าวว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 42 ราย อยู่ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (สงขลา 11 ราย สตูล 15 ราย ปัตตานี 7 ราย ยะลา 7 ราย นราธิวาส 2 ราย) ในส่วนของจังหวัดสงขลามีผู้ติดเชื้อ 11 ราย จากจำนวนผู้ที่กักตัว 22 ราย โดยผู้ป่วยทั้ง 11 รายนั้นได้เข้ารักษาที่หอผู้ป่วยเฉพาะ โรงพยาบาลหาดใหญ่-นาหม่อม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เตรียมไว้รองรับผู้ป่วยที่มีอาการเริ่มต้น 

ขณะนี้ผู้ติดเชื้อทั้ง 11 ราย มีอาการไม่รุนแรง ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการและอยู่ระหว่างกักตัวอาคารที่พักนักกีฬา สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต้ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ทางจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจหาเชื้อทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (9 เม.ย.) แต่เวลานี้อาการทั่วไปปกติ ไม่มีไข้

โดยนายจารุวัฒน์ ยืนยันว่า แม้จะมีผู้ติดเชื้อจากกรณีนี้ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบให้เกิดความเสี่ยงต่อประชาชนในพื้นที่ เนื่องจากขั้นตอนการคัดกรอง ตั้งแต่ลงเครื่อง จนเข้าสู่สถานที่กักตัวได้ดำเนินการอย่างรอบคอบรัดกุม สำหรับจังหวัดสงขลามีผู้ป่วยติดเชื้อรวม 48 คน เป็นผู้ป่วยติดเชื้อเดิมและตัวเลขนิ่งมาแล้ว 5 วัน จำนวน 37 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อกรณีดาวะห์ 11 ราย

ส่วนที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสตูล นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ยืนยันว่าในพื้นที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มีเพียงกลุ่มที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียจำนวน 26 ราย มากักตัวที่โรงพยาบาลสนาม อ.ละงู พบว่าติดเชื้อ 15 ราย นอกนั้นยังรอผล

โดยหนึ่งในนี้เป็นผู้สูงอายุ วัย 74 ปี ได้แยกออกมาต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลใจในกลุ่มที่พบเชื้อ เพราะทุกคนอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์และพยาบาลทันทีที่มาถึงสตูล แต่ประชาชนต้องไม่ประมาทขอให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย และอยู่บ้าน

Photo by visuals on Unsplash