ไม่พบผลการค้นหา
คณะรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรถูกวิจารณ์อย่างหนัก หลังจากความพยายามในการออกแผนการบังคับใช้บัตรประจำตัวที่มีรูปถ่ายใบหน้า สำหรับการลงคะแนนเลือกตั้ง ว่าทำให้ประชาชนเสียเวลาและทรัพยากร หลังจากสถิติแสดงให้เห็นว่า ไม่มีการปลอมแปลงผู้มีสิทธิเลือกตั้งหน้าคูหาในปีที่แล้วของสหราชอาณาจักร แม้แต่กรณีเดียว

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลทางการอื่นๆ แสดงให้เห็นว่า มีการใช้เอกสารผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ที่ออกให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ก่อนการบังคับใช้บัตรประชาชนเป็นครั้งแรกทั่วประเทศ ในระหว่างการเลือกตั้งท้องถิ่นในอังกฤษเมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

ข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้งสหราชอาณาจักรระบุว่า ในการเลือกตั้งในปี 2565 ซึ่งครอบคลุมการเลือกตั้งท้องถิ่นในอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ การเลือกตั้งสมัชชาไอร์แลนด์เหนือ การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีในอังกฤษ และการเลือกตั้งโดยสภาสามัญ 6 ครั้ง มีข้อกล่าวหา 7 กรณีเกี่ยวกับ “การแสดงตัวตน” ที่หน่วยเลือกตั้ง

อย่างไรก็ดี ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ จากตำรวจในกรณีเหล่านี้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการหรือไม่มีหลักฐานการกระทำผิด ในข้อหาการปลอมแปลงตัวตนเพื่อไปเลือกตัั้ง ทั้งนี้ มีข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการระบุตัวตน 3 กรณี ที่เกี่ยวข้องกับการลงคะแนนทางไปรษณีย์ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากกฎการใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตนใหม่ โดย 1 กรณียังอยู่ระหว่างการสอบสวน

สหราชอาณาจักรมีรายงานการกระทำความผิด ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง 185 ครั้งในปี 2565 โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงมากกว่าการลงคะแนนเสียง ทั้งนี้ ไม่มีการดำเนินคดีใน 119 กรณี ขณะเดียวกัน กฎการบังคับใช้บัตรประชาชนที่มีรูปใบหน้า ในการยืนยันตัวตนก่อนการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร สร้างอุปสรรคต่อการลงคะแนนเสียงสำหรับผู้ใหญ่ประมาณ 2 ล้านคนที่ขาดเอกสารที่จำเป็น

ชาวสหราชอาณาจักรที่ไม่มีบัตรประจำตัว สามารถสมัครขอใบรับรองผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ฟรี ซึ่งออกโดยสภาของตน รวยมถึงการขอใบอนุญาติจากรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ดี ยอดสมัครจากส่วนกลาง ซึ่งปิดในวันที่ 25 เม.ย. แสดงให้เห็นว่า ณ วันอาทิตย์ (2 เม.ย.) มีผู้สมัครใบรับรองผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 37,000 คน ซึ่งน้อยกว่า 2% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีอายุมากและอายุน้อย แทบจะไม่ลงทะเบียนขอใบยืนยันผู้มีสิทธิเลือกตั้งสำหรับผู้ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน แม้ว่าคนทั้งสองกลุ่มจะถูกมองว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกกันออกจากการลงคะแนนเสียงตามกฎหมายใหม่ โดยจนถึงตอนนี้ มีคนอายุ 75 ปีขึ้นไปที่ลงทะเบียนเพียง 1,361 คน คิดเป็น 3.6% ของจำนวนทั้งหมด และมีผู้ลงทะเบียนเพียง 6% จากทั้งหมด 2,247 คนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี

แองเจลา เรย์เนอร์ รองหัวหน้าพรรคแรงงานกล่าวว่ารัฐบาล “บกพร่องต่อหน้าที่อย่างชัดเจน” ในการแจ้งให้ประชาชนทราบถึงกฎใหม่ โดยเธอกล่าวว่า “พรรคแรงงานมีความชัดเจนว่า บัตรประชาชนเพื่อการยืนยันตัวตนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นนโยบายที่มีราคาแพง ไม่จำเป็น และเป็นการจัดลำดับความสำคัญที่ผิดพลาดในช่วงวิกฤตค่าครองชีพ” พร้อมย้ำว่า “หากผู้ลงคะแนนไม่มีบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย วิธีที่ง่ายที่สุดในการลงคะแนนคือลงทะเบียนขอลงคะแนนทางไปรษณีย์”

ไอร์แลนด์เหนือมีระบบบัตรประชาชนมีรูปใบหน้ายืนยันตัวตน สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งนำมาใช้เนื่องจากการล่วงละเมิดการเลือกตั้งในอดีตโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดน อย่างไรก็ดี ในวันที่ 4 พ.ค. จะเป็นการบังคับใช้ระบบบัตรประชาชนมีรูปใบหน้า เพื่อยืนยันตัวตนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก ในพื้นที่ส่วนที่เหลือของสหราชอาณาจักร ซึ่งเพิ่งถูกทดลองใช้ในการสำรวจความคิดเห็นของสภาไม่กี่แห่ง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมระบบนี้จึงถูกนำมาใช้ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานน้อยมาก เกี่ยวกับการแอบอ้างเป็นบุคคลเพื่อลงคะแนนเสียง โฆษกอย่างเป็นทางการของ ริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร กล่าวว่า "นี่เป็นการป้องกันโอกาสที่จะเกิดการกระทำผิด ในด้านของการแอบอ้างเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง"


ที่มา:

https://www.theguardian.com/politics/2023/apr/03/voter-photo-id-plan-attacked-as-uk-data-shows-no-cases-of-impersonation?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR2PnXYj7PEtGFm5IOSYBIMtNT6AapPOCY13yq0BeJEhH9xFQpt8B9TsMzo