วันที่ 9 มี.ค. 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ว่า รัฐบาลมีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาไม่ใช่เพียงปัญหาราคาน้ำมันเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำมันมีหลายประเภท แต่จะทำอย่างไรให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุดเท่าที่รัฐบาลจะทำได้ ทั้งมาตรการด้านภาษี การจัดหาเงินมาทดแทนกองทุนพลังงาน ซึ่งมีการวางมาตรการรองรับไว้หลายมาตรการด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลมีการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ ที่ไม่เกินลิตรละ 30 บาท หากเกินกว่านั้นจะทำอย่างไร ซึ่งหากราคาสูงขึ้นอีกก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เนื่องจากในหลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน พร้อมกับระบุว่า ราคาน้ำมันและแก๊สประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำของในอาเซียน แต่ไม่ได้ต่ำที่สุดเนื่องจากบางประเทศมีแหล่งพลังงานภายใน ขอให้เข้าใจกันด้วย ซึ่ง
“ผมก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะพูดแล้วก็ถูกนำไปบิดเบือน พูดไปบางทีก็ไร้ค่าไร้ประโยชน์ เพราะจับแต่ประเด็นที่จะเป็นปัญหาไปเผยแพร่ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นก็เชื่อมโยงไปทั้งโลก ซึ่งประเทศไทยก็อยู่ในกลุ่มต่างๆ”
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยอยู่ในจุดที่สมดุลที่สุด รัฐบาลจึงต้องหามาตรการที่เหมาะสม ในการดำเนินการกับทุกประเทศ เพื่อให้เกิดความร่วมมือให้ได้มากที่สุด ให้เกิดกับประชาชนโดยตรง
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ย้ำว่า จะตรึงราคาน้ำมันจนกว่าจะตรึงไม่ได้ โดยหากราคาน้ำมันดิบเกินกว่า 130 - 180 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะทำอย่างไร ซึ่งหากเปรียบเทียบในรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีราคาสูงเช่นเดียวกัน แต่เป็นระยะสั้น สถานการณ์ไม่ได้ยาวเช่นนี้ ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะปรับลดลง เพราะเป็นคนละสถานการณ์กัน การแก้ไขปัญหาวันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน จึงมีวิธีการที่แตกต่างกัน วันนี้ประเทศไทยมีความเจริญมีความเจริญ มีประชากรจำนวนมากและจำเป็นต้องใช้พลังงาน ผลกระทบสิทธิ์มากขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา ของเราปัญหาของเราคือ งบประมาณที่มีอยู่จำกัด เพราะมีการนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมกับยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในทุกมิติ และจะทำให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงการตรึงราคาน้ำมันเบนซิน นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยเสียงเข้มว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสม เฉพาะดีเซล เพราะอาการหนักอยู่เลย และจะต้องไปหาวิธีการเฉพาะกลุ่มว่าจะทำอย่างไร ขอให้เข้าใจด้วย
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า จะเรียกคณะกรรมการเกี่ยวกับแร่ต่างๆมาหารือ ว่าประเทศไทยมีแหล่งแร่ที่ใดบ้างที่จะนำมาทำปุ๋ย เพื่อหาวัตถุลดต้นทุน แต่ต้องไม่เกิดความขัดแย้ง ซึ่งถ้ามีก็ไม่จำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบมาผลิตปุ๋ยในราคาแพงจากต่างประเทศ แล้วมาโวยวายก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา ขอให้ช่วยตัวเองบ้าง รวมถึงการผลิตอาหารสัตว์ ซึ่งก็ยึดโยงกับภาคพลังงาน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่า มีสีหน้าท่าทางที่เหนื่อย โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินช้าๆ เหมือนหมดแรง ก่อนที่จะบอกว่าไม่เหนื่อยหรอกมั้ง