ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจคุมเข้ม 'ภูมิใจไทย' หลังม็อบประกาศจะมา ด้าน 'อนุทิน' บอกม็อบไม่ต้องตามหา เพราะไม่ได้หลบซ่อน ถามกลับ “ผมไปทำอะไรผิด' ย้ำ 'พิพัฒน์' ไม่ได้ถูกล้อม แต่เจ้าตัวอยากลงไปทำความเข้าใจ ชี้เคารพทุกความเห็นแต่ต้องอยู่ในกรอบกฎหมาย ให้สิทธิ 'เพื่อไทย' ดีลพรรคอื่นร่วมรัฐบาล

วันที่ 8 ส.ค. อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทย โดยถามกลับสื่อว่า มาทำไม และไม่ต้องตามหา เพราะตนไม่ได้หลบซ่อนอะไร

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรหลังจากไปแถลงจับขั้วรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แล้วก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น สุดท้ายกลายเป็นเราถูกไล่ล่า อนุทิน ถามกลับว่า “ทำไมต้องไล่ล่า ผมไปทำความผิดอะไรตรงไหน เราก็ทำงานให้กับบ้านเมืองด้วยกันทั้งนั้น ทุกคนมีสิทธิแสดงความเห็นส่วนตัว แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เราต้องเคารพความคิดซึ่งกันและกัน ผมก็เคารพความคิดของเขา”

ส่วนเหตุการณ์วานนี้ที่เกิดขึ้นกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มองอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า พิพัฒน์ ไม่ได้ถูกล้อม แต่เจ้าตัวคิดว่าอาจจะลงมาพูดคุย เพื่อทำความเข้าใจอะไรได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ซึ่ง พิพัฒน์ ก็มีความอดทนสูง วางตัวเป็นผู้ใหญ่ได้ดี ไม่ได้ไปตอบโต้ ต่อล้อต่อเถียงอะไรจนเกินงาม

เมื่อถามว่า การเดินทางและการรักษาความปลอดภัยหลังจากนี้ของ อนุทิน และคนในพรรค จะมีการกำชับอะไรเพิ่มเติม อนุทิน ส่ายหน้าพร้อมระบุว่า นี่มันไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อน บ้านเมืองมีความศิวิไลย์ มีกฎหมาย เรายังเชื่อมั่นใน ความปลอดภัยของพวกเราภายใต้กฎหมาย เราไม่ได้ไปทำอะไรที่ทำร้ายบ้านเมือง เราไม่ได้ขี้โกง ไม่ได้ไปทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ ตรงกันข้ามพยายามที่จะหาทางทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ทุกคนก็มีความคิดเห็น แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย พวกตนไม่ได้เห็นชอบกับการกระทำในสิ่งเหล่านี้ แต่ก็ต้องเคารพน้องๆ เขาตัดสินใจทำ พฤติกรรมเช่นนี้ ทำกิริยาเช่นนี้เราก็ต้องเข้าใจว่าเขามีความไม่พอใจอะไร แต่ต้องพูดกันด้วยความเป็นวิญญูชน พร้อมยกตัวอย่าง เราจะไปขอให้ใครทำอะไรให้ แล้วเริ่มต้นด้วยการด่าทอ แล้วจะได้ความร่วมมือได้อย่างไร

ส่วนการจับขั้วรัฐบาลกับพรรคอื่น พรรคภูมิใจไทยให้สิทธิพรรคเพื่อไทยเป็นคนจัดการ หรือต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อน อนุทิน ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถูกเชิญเข้าไปร่วม จัดตั้งรัฐบาล เพราะฉะนั้นการตัดสินใจหรือจะนำพรรคอะไรต่างๆเข้ามา ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย ซึ่งทางภูมิใจไทย บอกแล้วว่าเรารวมกับพรรคไหนไม่ได้ เมื่อบอกไปแล้วเขาก็ไม่ได้เอาเข้ามา เราก็ทำงานต่อไป

ส่วนการประชุมพรรคภูมิใจไทยวันนี้ จะมีการแจ้งให้สมาชิกพรรครับทราบถึงการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องแจ้งความเป็นไป เพราะลูกพรรคให้ฉันทานุมัติกับหัวหน้าพรรคไปพูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆในการจัดตั้งรัฐบาล เมื่อเรียบร้อยแล้วพูดคุยแล้วก็ต้องกลับมารายงานให้สมาชิกได้ทราบ พร้อมย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยมีความเหนียวแน่นเป็นไปในทิศทางเดียวกันตลอด เปิดกว้าง แต่ทุกอย่างต้องจบในพรรค และภาพลักษณ์ที่ต้องไปดำเนินการอะไร ก็เป็นฉันทานุมัติของพรรค

ส่วนถ้าหลังจากนี้จะมีการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วอีก อาจมีกระแสที่รุนแรงกว่าเดิมนั้น อนุทิน กล่าวว่า ก็ขอให้ทุกคนอยู่ในขอบเขตกฎหมาย พูดอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ถ้าเกิดพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นรัฐบาลแล้วบอกว่าไม่เอาไม่พอใจ ชวน สส. ไปปิดพรรคคนโน้นคนนี้ เราคงไม่ทำ ทุกอย่างอยู่ในรูปแบบของระบอบประชาธิปไตย ก็ขอให้ระบอบประชาธิปไตยได้ทำงาน ทุกอย่างยังมีเสียงข้างมาก ถ้าไม่มีเสียงข้างมากก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะภูมิใจไทยบอกชัดเจนแล้วว่าจะไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่ง ไม่ไปให้ความร่วมมือใครด้วย ไม่จัดเองด้วย ดังนั้นความที่จะไม่เป็นประชาธิปไตยจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เมื่อเป็นประชาธิปไตยมีเสียงข้างมากแล้วก็เป็นไปตามกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับต่างๆ ถือว่าเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิด ทำนองครองธรรม และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่ได้เป็นคนจัดรัฐบาล เพราะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีแล้ว ก็คือพรรคเพื่อไทย เมื่อเขาติดต่อมาขอให้ไปพูดคุย รับเงื่อนไขกันได้ เราต้องสนับสนุนเขา เขาต้องสนับสนุนเราในเรื่องนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อบ้านเมือง เราจบกันตรงนี้ได้ ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นพันธมิตรกัน ร่วมมือกัน และพยายามทำให้รัฐบาลมีความเข้มแข็งให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่วันนี้เจอกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ท่านก็ให้กำลังใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.บางเขน และ บก.น.2 มาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งในโลกออนไลน์ว่าจะมาตามหาตัว อนุทิน